บทความ

บทความ นิทาน เทพเจ้าแห่งโชคชะตา

รูปภาพ
  ณป้ายรถเมล์ แห่งหนึ่ง ได้มีชายหนุ่มกำลังยืนเหมอลอย ด้วยสีหน้าที่อมทุก แล้วทันใดนั้น ก็เกิดอุบัติเหตุรขึ้น รถเมล์แหกโค้งพุ่งเข้าไปชนชายหนุ่มคนนั้น จนเสียชีวิต   เมื่อชายหนุ่มรู้ตัวว่า ตัวเขานั้นได้ตายไปแล้ว เขาก็ไม่รอช้า รีบไปโวยวายกับเทพเจ้าแห่งโชคชะตาในทันที   ทำไมท่านถึงทำกับผมแบบนี้ ทำไมท่านถึงต้องกลั้นแกล้งผมแบบนี้ด้วย   เทพเจ้าแห่งโชคชะนะ ก็ทำหน้างง ข้าไปกั้นแกล้งอะไรเจ้าเมื่อไหร่กัน ไหนเล่ามาให้ค่าฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น   ชายหนุ่มจึงเล่าว่า ผมได้เจอรักแท้ของผมตั้งแต่ผมยังเด็ก เธอเป็นเพื่อนบ้านของผมเอง แถมเรายังได้เรียนที่เดียวกันอีกด้วย แต่สุดท้าย โชคชะตาก็เล่นตลก ทำให้เธอไปชอบคนอื่น   เมื่อผมโตขึ้น ผมก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่โชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้ง เมื่อบริษัทแห่งนี้ขาดทุนติดต่อกันทุกปี จนในที่สุดก็ต้องปิดกิจการไป   และสุดท้าย ผมยืนรอรถเมของผมอยู่ดี ๆ   ก็โดนโชคชะตากลั่นแกล้ง ทำให้รถเมล์พุ่งมาชนผมจนตาย แบบนี้ท่านยังจะบอกว่า ไม่ได้กลั่นแกล้งผมอีกอย่างนั้นเเหรอ   เมื่อฟังจนจบ เทพเจ้าแห่งโชคชะตา จึงทำหน้าเซ็ง ก่อนจะอธิบายให้ฟังว่า  

บทความ นิทาน จดบันทึก

รูปภาพ
  ในวันเปิดการศึกษาใหม่ นักศึกษาหนุ่มได้เดินดุ่ม ๆ เข้าไปในห้องชมรมโกะ เขาเปิดประตูออดและเดินเข้าไปหาอาจารที่ปรึกษา แล้วพูดว่า ผมอยากเข้าชมรมโกะครับ     อาจารที่ปรึกษาจึงถามเขาว่า คุณเคยเล่นโกะหรือมีประสพการเกี่ยวกับโกะมาก่อนไหม   นักศึกษาบอกว่าไม่เคยครับ   อาจารย์จึงถามว่าถ้าอย่างนั้น อะไรละถึงทำให้คุณอยากเข้าชมรมนี้   นักศึกษาหนุ่มจึงตอบว่า ผมบังเอิญได้ดูการแข่งขันโกะในทีวีและผมรู้สึกว่าพวกเค้าเท่มาก   ผมอยากเท่และเก่งแบบเขาบ้าง   เมื่อนึกศึกษาหนุ่มพูดจบ อาจารที่ปรึกษาจึงยื่นสมุดเล่มหนึ่งให้กับเค้า เนื่องจากเธอเป็นสมาชิกใหม่ ชมรมณ์ของเรามีกฎนิดหน่อย ที่เธอต้องปฏิบัติตาม ชมรมของเรามีกฎว่า สมาชิกใหม่ทุกคน ต้องจดบันทึกความรู้สึก ในการเข้าชมรมอย่างละเอียด ทุกครั้งในสัปดาห์แรก นักศึกษาหนุ่มปฏิบัติตาม แต่หลังจากที่เขาเค้าชมรมมาได้ 3 เดือน เข้าก็ได้เดินเข้าไปหาอาจารที่ปรึกษาอีกครั้งหนึ่ง เค้าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า อาจารย์ครับ ผมจะมาขอลาออกจากชมรมณ์ครับ      อาจารย์ที่ปรึกษาจึงบอกว่า   ได้สิ แต่กฎในการออกจากชมรมณ์ก็คือ เธอต้องคัดลอก สิ่งที่เธอจดไว้ในสมุดปก

บทความ ขอพรปีใหม่

รูปภาพ
เดือนสุดท้ายของปีกับเดือนแรกของปี คุณผู้อ่าน รู้สึกดีกับเดือนไหน มากกว่ากันครับ ถ้าอยากให้ชีวิตมีแต่สิ่งดี ๆ  เราต้องขอพรกับใคร มาฟังกันครับ     มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านนึงครับ เขาได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจมาก เขาถามว่า ระหว่างเดือนธันวาคม กับเดือนมกราคม คุณชอบเดือนไหนมากกว่ากัน     ซึ่งได้มีการทวิต แล้วพูดคุยถึงเรื่องนี้กันเยอะมาก ๆ เลยครับ     มีผู้ใช้รายนึงครับเขาบอกว่า เขาชอบเดือนธันวาคมมากกว่า เพราะว่าเดือนธันวาคมนั้นมีวันหยุดเยอะ เทศกาลก็เยอะ ทั้งวันรัฐธรรมนูญ วันคริสต์มาส วันเคาท์ดาวน์ปีใหม่ และในเดือนนี้นะครับ ใคร ๆ ก็วางแผนที่จะไปเที่ยว จะพักผ่อนกันทั้งนั้น บ้างก็นัดสังสรรค์ ออกไปเที่ยว บ้างก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ทำให้เดือนนี้เต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่นมาก ๆ ผู้ใช้อีกรายนึงนะครับ ก็เข้ามาคอมเม้นด้วยครับ เขาบอกว่า เขาเกลียดเดือนธันวาคมที่สุด มันอาจจะฟังดูดีนะครับสำหรับคนที่มีเพื่อน มีแฟน มีครอบครัว แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีแบบนั้น   สำหรับคนที่ไม่มีใคร ไม่มีที่ไป เดือนธันวาคมจะเป็นเดือนที่เหงาและหดหู่มาก ๆ  ในเดือนนี้ อาจจะเรียกว่าเป็น นรกสำหรับคนที่พึ่งอกหักเลยก็ว่าได้ เพราะต้องเค้าด

บทความ ราชสีห์สอนลูก

รูปภาพ
  ณ ป่าสะวันนาอันกว้างใหญ่ ได้มีราชสีห์หนุ่มที่น่าเกรงขาม อยู่ตนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเสือสิงห์กระทิงแรด เมื่อได้เจอกับเจ้าป่าตัวนี้ก็เป็นอันต้องแพ้พ่ายไปในทุกราย     แต่แล้ววันหนึ่ง ก็ได้มีสุนัขบ้าตัวหนึ่ง เดินผ่านมาเจอกับราชสีห์ ราชสีห์จึงหลีกทางให้มันแล้วเดินอ้อมไปในทันที ลูกชายของราชสีห์เห็นดังนั้น จึงแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างมาก     เมื่อสองพ่อลูกเดินผ่านเจ้าหมาบ้าตัวนั้นไปแล้ว ลูกชายก็รีบต่อว่าพ่อของตนในทันที ท่านพ่อ ท่านเป็นถึงเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็ไม่สามารถเอาชนะท่านได้ แต่แล้วกับอีแค่หมาบ้าตัวเดียวท่านถึงกับต้องเดินหลบมาเลยเชียวหรือ ท่านพ่อไม่คิดว่ามันน่าอายบ้างรึไง     ราชสีห์หนุ่มหัวเราะออกมา ก่อนที่จะบอกกับลูกชายให้เข้าใจว่า ถ้าเช่นนั้นเจ้าช่วยตอบคำถามพ่อหน่อยได้หรือไม่ การเอาชนะหมาบ้าตัวหนึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจนักหรือไง   ลูกชายตอบว่า ไม่เลยครับ   ราชสีห์จึงพูดต่อไปว่า ถ้าเช่นนั้นหากโดนหมาบ้ากัดขึ้นมาหล่า จะไม่ยิ่งเป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าเดิมหรือยังไง     ลูกสิงโตแสดงท่าทีเห็นด้วยกับพ่อของตน     ราชสีห์จึงสอนลูกว่า จงจำไ

บทความ โจรขโมยมะม่วง

รูปภาพ
ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่เด็กน้อยกำลังนั่งเล่นอยู่หลังบ้านของเขา เขาก็ได้สังเกตเห็นว่า มีคุณลุงคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บ้านใกล้ ๆ กัน ได้แอบลักลอบ เข้ามาในสวนหลังบ้านของเขา     คุณลุงข้างบ้านแอบปีนต้นมะม่วง และเด็ดเอามะม่วงกลับบ้านของเขาไป โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต   เด็กน้อยตกใจมาก จึงรีบวิ่งไปฟ้องพ่อของเขาในทันที เด็กน้อยกล่าวว่า พ่อครับ คุณลุงข้างบ้านแอบมาขโมยมะม่วงของเราไป พ่อของเด็กน้อยจึงหัวเราะ แล้วถามเด็กน้อยกลับไปว่า เรายังเหลือมะม่วงอีกเยอะไหม เด็กน้อยจึงบอกว่า เท่าที่เห็น ก็ยังมีเหลืออีกเยอะครับ     ถ้าเช่นนั้น ลูกช่วยไปเด็ดมะม่วงมาให้พ่อสัก 7 ลูกหน่อยนะ     เด็กน้อยรีบทำตามคำสั่งของพ่อในทันที เด็กน้อยเข้าใจว่าพ่อของตนต้องการที่จะเด็ดมะม่วง มาเก็บไว้ให้หมด จะได้ไม่มีใครมาขโมยอีก     แต่กลับกลายเป็นว่า พ่อได้จูงมือเด็กน้อย ที่ถือมะม่วงทั้ง 7 ลูก ไปหาเพื่อนบ้าน คนที่ขโมยมะม่วงของพวกเขาไป     เด็กน้อยก็ทำหน้าสงสัย ว่าพ่อกำลังคิดจะทำอะไร เมื่อไปถึงหน้าบ้านของคุณลุงข้างบ้าน พ่อก็เคาะประตูเรียกเขาให้ออกมาในทันที     และแน่นอน หน้าตาของคนกระทำความผิด ย่อมมีสีหน้าที่ไม่สู้ดี คุณลุงท่านนั้นดูท่

บทความ ผู้หญิงขั้วบวก

รูปภาพ
   ผู้หญิงขั้วบวก     ผมเลือกหนังสือเล่มนี้มา ด้วยเหตุผลเดียวเลยครับ คืออยากจะรู้มุมมอง แล้วก้แนวคิดของทางฝั่งคุณผู้หญิงบ้างนะครับ ว่าพวกเธอ   มีทัศนคติในการมองโลกอย่างไร   แต่ปรากฏว่าหลังจากอ่านจบแล้ว  ผิดคาดมาก ๆ ครับ หนังสือเล่มนี้ เป็นอะไรที่สุดยอดเกินคำบรรยายจริง ๆ     เริ่มจากหน้าปกก่อนเลยก็ได้ครับ คุณผู้อ่านจะเห็นนะครับว่าใต้คำว่า ผู้หญิงขั้วบวก  จะมีตัวหนังสือเล็ก ๆ อยู่ มันเขียนว่า รักแท้ไม่มีอยู่จริง แต่ความเชื่อที่ว่า   รักแท้มีจริงต่างหาก ที่เป็นของจริงและทรงพลัง     เห็นไหมครับ แค่ประโยคแรกก็ลึกซึ้งแล้วครับ แต่จากการอ่านประโยคนี้นะครับ ก็ทำให้ผม  คาดเดาได้นะครับว่า หนังสือเล่มนี้ต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องของความรัก ในมุมมองของคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน     โดยผู้เขียนหนังสือเล่มนี้นะครับ มีนามปากกาว่าคุณคำผกาครับ เป็นสาวเชียงใหม่ ซึ่งเธอ  เป็นนักเขียนดาวรุ่ง ในหมู่นักเขียนสาวแห่งยุคสมัยด้วยนะครับ     แล้วเธอ  ก็ยังได้เป็นพิธีกร ให้กับสถานีโทรทัศน์ออนไลน์ อย่างวอยซ์ทีวีด้วยครับ ที่สำคัญคือเธอเป็นนักเขียนที่มีผลงานการเขียนมาแล้วถึง 20 เล่มกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นนักเขียนที่ไม่ธ