บทความ เมื่อเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน

 



วิธีจัดการเมื่อเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน 

 

สวัสดี คุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ บทสรุปฉบับแฮม แฮม กับผม แฮมมติพงศ์ ตรึกตรองครับ

 

ถ้าพูดถึงคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องของการยืมเงินนะครับ 

 

ถ้า คุณผู้อ่านยังจำกันได้  ผมเคยหยิบยก มาพูดถึง

แล้วครับ ในพอดแคส Episode ที่ 1 ประจำวันที่ 1 มกราคม 2565 

 

ซึ่งในตอนนั้น  ผมได้ ตั้งคำถามนะครับว่า 

ทำไมลูกหนี้ เวลายืมเงินไปแล้ว  พวกเขามักจะไม่ค่อยรักษาสัญญา 

 

มักจะไม่ค่อยคืนเงินตรงเวลา หรือบางคน  ก็เรียกได้ว่าไม่ยอมคืนเลยก็มี 

 

ซึ่งในตอนนั้นนะครับ ผมก็ได้ไปถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นลูกหนี้มานะครับ เพื่อดูว่า พวกเขา  มีเหตุผลอะไรบ้าง  ทำไมถึงยืมเงินแล้วไม่คืน 

 

ถ้าหาก คุณผู้อ่านคนไหนยังไม่ได้ฟังนะครับ 

ก็สามารถกลับไปฟังย้อนหลังก่อนได้นะครับ เพื่อที่เรา จะได้ทราบถึงเหตุผลครับ ว่าทำไมลูกหนี้ส่วนใหญ่

ถึงไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย 

 

เอาล่ะครับในวันนี้  ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งครับ

ที่ผมอยากจะหยิบ Content นี้ มาปัดฝุ่นพูดซะหน่อย 

 

เพราะว่า ผมบังเอิญได้อ่านบทความการตอบคำถามบทความหนึ่งครับ ของคุณ แดนเออารี นักเขียนชื่อดัง นะครับ

 

โดยได้มีแฟนคลับ ท่านหนึ่งนะครับ

ได้ส่งจดหมายมาหาคุณแดงครับ 

และถามคำถามกับเขาประมาณว่า

 

พอดีว่าดิฉันมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนเพื่อนของดิฉันได้ยืมเงินจำนวนมากก้อนหนึ่งจากดิฉันไป

 

 แต่หลังจากที่เธอได้เงินไปแล้ว  มันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะคะ แล้วก็ดูเหมือนกับว่า เพื่อนของดิฉันคนนี้  

จะไม่ยอมพูดถึง เรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลย 

 

ฉันรู้สึกว่าการกระทำของเธอ

กำลังสร้างรอยร้าวให้กับมิตรภาพของพวกเราค่ะ ดิฉันควรที่จะทำอย่างไรดีคะ ฉันควรจะทวงเงินเธอหรือเปล่า 

 

จากที่ฟังปัญหาของคุณผู้หญิงท่านนี้นะครับ 

 คุณผู้อ่านเห็นไหมครับว่า 

ปัญหาการยืมเงินแล้วไม่คืน

มันเป็นกันทั่วโลกครับ 

ไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยของเราอย่างแน่นอน 

 

โดยคุณแดงนะครับ ก็ได้อธิบายแบบนี้ครับ คุณผู้อ่าน 

 

คุณแดนบอกว่า ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้นะครับ มันเกี่ยวกับสถานะครับ 

 

ก่อนหน้าที่เพื่อนของคุณ จะยืมเงิน คุณไป  คุณทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันครับ 

คำว่าเพื่อนน่ะครับ หมายถึง คนที่อยู่ในระดับเดียวกัน

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน จะรวยจะจน จะเก่ง จะดังสักแค่ไหนก็ตาม

หากขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนกันนะครับ นั่นเท่ากับว่า 

คุณทั้งสองคน  อยู่ในระดับเดียวกันครับ อยู่ในระดับที่เท่าเทียมกัน 

 

แต่ในวินาทีที่คุณ  ให้เพื่อนยืมเงิน สถานะความสัมพันธ์ของคุณและเพื่อน ก็เปลี่ยนไปในทันทีครับ

 

เพราะว่าตอนนี้  

มันได้มีสถานะอื่นมาแทนที่คำว่าเพื่อน 

เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ

 ซึ่งสถานะนั้น นั่นก็คือ เจ้าหนี้และลูกหนี้นั้นเองครับ 

 

ซึ่งถึงแม้คุณจะไม่คิดแบบนั้นกับเพื่อนของคุณ แต่เพื่อนของคุณ ก็คิดแบบนั้นกับคุณ เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ 

 

คุณแดนบอกว่าเจ้านี่นะครับ เป็นสถานะที่อยู่สูงกว่าครับ มีอำนาจมากกว่า 

 

และด้วยเหตุนั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายอยู่ในสถานะที่ไม่เท่าเทียมกันอีกต่อไป 

นั่นอาจจะทำให้เพื่อนของคุณ

อาจจะ เอ่ยปากพูดเรื่องเงินได้ยากสักหน่อยครับ 

 

ดังนั้นหากจะมีใครสักคนหนึ่ง เอ่ยถามเรื่องของเงินที่เขายืมไป หน้าที่นั่น ก็ควรจะเป็นของเจ้าหนี้ครับ นั่นคือคุณต้องเป็นคนเปิดบทสนทนาเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน 

 

ซึ่งในบทความนะครับ คุณแดงเขาก็ได้แนะนำวิธีทวงเงินมาด้วยครับ เขาบอกว่า ให้เรา  บอกกับเพื่อนไปครับว่า 

 

พอดีว่าฉันกำลังจะเคลียร์บัญชีที่แล้วมาทั้งหมดอยู่ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า เธอติดเงินฉันอยู่ ก็เลยอยากทราบว่าเธอสะดวกที่จะใช้คืนเลยไหม 

 

ซึ่งการทวงแบบมีนะครับ  คุณผู้อ่านอาจจะรู้สึกว่า โอกาสที่จะได้คืนคงต่ำมากได้แน่ ๆ  

 

เพราะว่าการทวงแบบคนไทยเรา  จะมีลูกเล่นมากกว่าครับ อย่างเช่น ฉันกำลังป่วยหนัก ฉันกำลังเดือดร้อน ฉันต้องการใช้เงินด่วน เมื่อไหร่เธอจะคืน 

 

เอาเป็นว่าไม่ว่า คุณผู้อ่าน จะทวงด้วยวิธีไหนก็ตามนะครับ ทางเลือกที่จะเกิดขึ้น มันก็มีอยู่แค่ 2 ทางเท่านั้นครับ 

 

นั่นคือเพื่อนของ คุณผู้อ่านนะครับ ข้อที่ 1 คืนครับ และข้อที่ 2 ไม่คืน 

 

และแน่นอนว่าในเคสนี้  เพื่อนของเจ้าของคำถามนะครับ ยืมเงินไปตั้งหลายปีแล้ว แล้วก็ทำเป็นเงียบไปเลย

 

 ดังนั้นการที่มาทวงเอาวันนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ยากครับ

ที่เขาจะตอบข้อที่ 1

 

คุณแดนบอกว่า ถ้าจนแล้วจนรอด สุดท้ายแล้วนะครับ เพื่อนของคุณ  ไม่คืนเงินคุณจริง ๆ  

อย่างน้อยที่สุดนะครับ ให้คุณพูดกับเขาแบบนี้ครับว่า 

 

ไม่เป็นไรนะ หนี้ก้อนนั้น ฉันยกให้เธอ 

ตั้งแต่นี้ถือว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป 

 

ซึ่งการพูดแบบนี้นะครับ 

เท่ากับเราจะไม่ได้เงินคืนอีกต่อไปครับ

 แต่ คุณผู้อ่านลองคิดดูให้ดี ๆ นะครับ ต่อให้เราไม่พูดแบบนี้ เพื่อนของเราคนนี้ ก็ไม่คิดจะคืนเงินเราอยู่ดี เท่ากับเราก็ไม่มีทางได้เงินคืนอยู่ดีเช่นกัน 

 

ดังนั้นการพูดออกไปว่า เราจะยกเงินให้เขาไปเลย  อย่างน้อยที่สุดมันก็ทำให้เราสบายใจกว่าครับ

 เพราะต่อจากนี้ จะได้หมดเรื่องค้างคาใจ ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัว ว่าเมื่อไหร่เขาจะคืน 

 

ที่สำคัญนะครับ ถึงจะไม่ได้เงินคืน

แต่อย่างน้อย เราก็ยังรักษามิตรภาพกับเขา ต่อไปได้อีกด้วยครับ 

 

อย่างไรก็ตามนะครับ การที่เขาเคยยืมเงินเราไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วไม่คิดจะคืนนะครับ นั่นก็หมายความว่า เพื่อนของเราคนนี้ หมดเครดิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ 

 

ถ้าหากคราวหน้าไม่ว่าเขาจะมีเรื่องเดือดร้อนใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรเราก็ให้เขายืมไม่ได้นะครับ 

 

และนั่นถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ ถึงจะไม่ได้เงินกลับมา แต่อย่างน้อย ต่อจากนี้  คุณผู้อ่านก็จะได้สบายใจ แล้วจบเรื่องค้างคาใจไปเสียที 

 

และนี่คือแนวคิดในการทวงเงิน ของคุณแดน เออารี ครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าหนี้ทุกคนนะครับ 




สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ

จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม  พอดแคสต์

ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

บทความ เทคนิคการจีบสาว ฉบับเจ้าของเพจสายลมแห่งชีวิต

บทความ แตะตัวทำให้ชอบกันได้ไหม

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ เทคนิคการจดจำ