บทความ ทำไมฉันต้องเก็บขยะริมหาด

 ทำไมฉันต้องเก็บขยะริมหาด 

สมัยตอนเป็นเด็กผมเคยไปเที่ยวเกาะสมุย และพบกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่ทำโครงการพานักศึกษามาเก็บขยะตามชายหาด แล้วก็มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเดินมาสัมภาษณ์อาจารย์ท่านนั้น ถึงสิ่งที่ได้ทำในวันนี้ อาจารย์ให้สัมภาษณ์ ประมาณว่า วันนี้เก็บขยะได้จำนวนมาก (จริง ๆ บอกเป็นจำนวนแต่ผมจำไม่ได้)แต่ขยะที่เก็บได้ในวันนี้ มันยังน้อยถ้าเทียบกับจำนวนของขยะที่มีคนทิ้งต่อ 1 วันเสียอีก

ตอนนั้นผมคิดในใจเลยว่า หากสิ่งที่อาจารย์พูดเป็นความจริง แล้วจะทำโครงการนี้ไปเพื่ออะไร ถ้าคนทิ้งมันมากกว่าคนที่เก็บ การเก็บขยะครั้งนี้ก็ไร้ซึ่งความหมาย ที่สำคัญดูเหมือนโครงการจะสิ้นสุดภายในวันนี้ แล้วด้วย แต่คนที่ทิ้งขยะลงทะเลไม่เคยคิดที่จะหยุดทิ้งเลยสักวัน 


เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ระหว่างที่ผมไปเที่ยวทะเล แต่รอบนี้ไปแค่เกาะล้าน ก็พบเจอกับโครงการเก็บขยะตามชายหาดอีกแล้ว (ผมไม่แน่ใจว่าเป็นโครงการหรือเปล่า เพราะมีกันแค่ไม่กี่คน) ผมแปลกใจมากที่มีคนมาเก็บขยะตามชายหาดแถวนี้ เพราะดูเหมือนแถวนี้จะมีเพียงหาดทรายสีขาว และน้ำทะเลสีฟ้าแสนสวยเท่านั้น หันไปทางไหนก็ไม่เห็นขยะเลยสักชิ้น 


แต่ในวินาทีที่น้อง ๆ เขาเดินผ่านผมไป ผมถึงได้รู้ความจริงที่ว่า ที่ชายหาดมันสวยและสะอาดได้แบบนี้ ก็เพราะมีคนแบบพวกเขานั่นเอง ที่ผมพูดแบบนั้นเพราะว่าผมเห็นขยะทั้งหมดที่พวกเขาเก็บได้ มันมากมายเหลือเกิน มากจนแทบไม่อยากเชื่อว่า ก่อนผมมาที่นี่ตรงที่ผมยืนนี้ มีขยะอยู่มากมาย 


เหมือนตอนนี้ผมจะเริ่มเข้าใจแล้วครับ ว่าอาจารย์ที่ผมพบเจอตอนเด็กท่านทำโครงการเก็บขยะขึ้นมาทำไม เพราะถ้าหากเราคิดตามหลักเหตุและผลแล้ว จำนวนคนที่มีจิตสำนึกมีน้อยกว่าจำนวนคนที่ทิ้งขยะลงทะเล เท่ากับว่าไม่ว่าจะเก็บขยะกันเท่าไหร่ขยะก็ไม่มีวันหมดไปอย่างแน่นอน


แต่ที่คนเหล่านั้นยังเก็บอยู่ เพราะเขาต้องการที่จะรักษาธรรมชาติอันงดงามนี้ให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้สิ่งที่เขากำลังทำนั้น จะเป็นเพียงแค่การถ่วงเวลาก่อนเกิดการเสื่อมสลายของธรรมชาติจากฝีมือมนุษย์ก็ตามที 


อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจนั่นก็คือ ตอนที่ผมไปเที่ยวหาดแสงจันทร์จังหวัดระยอง ผมก็ได้สังเกตเห็นว่ามีถุงพลาสติกติดอยู่บนโขดหิน มันทำให้วิวทิวทัศน์พี่แสนสวยงามในตอนนั้นดูแย่ลงไปในทันที แน่นอนว่าผมไม่เก็บให้หรอก ทำไมผมจะต้องไปตามล้างตามเช็ดให้กับพวกมักง่ายที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ด้วยล่ะ ระหว่างที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ผมก็บังเอิญเห็นคุณตาคุณยาย 2 คน เดินมาที่โขดหินอันเดียวกับที่ผมอยู่ ผมคิดในใจว่าถ้าพวกเขาเห็นขยะชิ้นนี้ เขาคงรู้สึกไม่ดีเหมือนที่ผมรู้สึกเป็นแน่ 


จึงตัดสินใจนำขยะชิ้นนั้นไปทิ้งในถังขยะให้ (จะบอกว่าแถวนั้นไม่มีถังขยะด้วยครับ) ต้องเดินไปไกลมากกว่าจะเจอถังขยะ ก่อนผมจะกลับผมก็หันไปดูคุณตาคุณยายที่กำลังชื่นชมกับธรรมชาติ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของทั้ง 2 ท่านแล้ว ก็รู้สึกเลยครับว่า สิ่งที่ผมทำเนี่ยมันมีคุณค่ามากเหลือเกิน แค่เรื่องง่าย ๆ อย่างการหยิบขยะมาทิ้งก็สามารถทำให้คนสองคนเกิดความสุขได้แล้ว 


ผมก็เลยคิดว่า ไม่แน่นะ บางทีคนที่เก็บขยะตามชายหาดเขาอาจจะแค่หวังอยากให้คนที่มาชายหาดพบเจอวิวทิวทัศน์ที่แสนงดงามก็เป็นได้ และระหว่างที่ผมกำลังคิดจะเขียนเรื่องนี้ลงไปเป็นบทความ ผมก็แกะเปลือกของนมกล่องที่ซื้อใน Family Mart แล้วพลาสติกที่ห่อหุ้มหลอดก็ได้หลุดปลิวไปตามลม ผมไม่วิ่งไปเก็บมันหรอกครับ จะมีใครที่ไหนวิ่งไปเก็บเปลือกพลาสติกใส ๆ ชิ้นเล็ก ๆ ที่ห่อหลอดที่ปลิวไปตามลมกันบ้างล่ะ 


แล้วจากเหตุการณ์นั้นทำให้ผมคิดได้ว่า ไม่แน่นะ คนที่ทิ้งขยะลงทะเลเนี่ย อาจจะมีคนที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทิ้ง ปะปนอยู่ด้วยก็เป็นได้ พวกเขาอาจจะแค่สะเพร่าจนลืมหยิบมันกลับมา หรืออาจจะทำมันหลุดลอยไปตามสายลม เหมือนที่ผมเพิ่งทำเมื่อตะกี้ 

ถึงตอนนี้ผมก็ยังคงคิดว่า คนที่มีจิตสำนึกที่ดี ยังมีน้อยกว่าอยู่ดี และการเก็บขยะริมชายหาด ก็เป็นแค่การต่อเวลาของธรรมชาติที่สวยงามให้อยู่นานมากขึ้นก็เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การที่มันอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย มันก็สามารถสร้างความสุขให้กับคนได้มากขึ้นอีกสักหน่อยไม่ใช่เหรอ ถ้าเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการต่อลมหายใจให้กับธรรมชาติได้ เราก็ควรจะทำนะ ผมคิดแบบนั้น 








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ คนสวยก็มีความทุกข์ในแบบของคนสวยเหมือนกัน

บทความ เกมให้คะแนนสาวสวย

บทความ สระว่ายน้ำของคนโง่