บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2020

บทความ ของ3สิ่งที่ควรหยิบติดมือมาด้วยก่อนเรียนจบมหาลัย

รูปภาพ
  ภาพหน้าปกจาก unsplash.com ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในมหาลัยหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนผมว่าการเรียนในระดับมหาลัยนั้นเราจะเรียนเล่น ๆ เหมือนตอนสมัยมัธยมไม่ได้อีกแล้ว เพราะตอนนี้เราได้เลือกเรียนสาขาวิชาที่มันเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และความรู้ต่อจากนี้มันคือความรู้ที่เราจะต้องนำไปประกอบอาชีพอย่างแท้จริง (ในกรณีที่ทำงานตรงสายที่เรียนมานะ)  ดังนั้นการตั้งใจเรียนหนังสือจึงเป็นเรื่องที่นักศึกษาทุกคนรู้อยู่แก่ใจ หลายคนตั้งใจเรียนตลอด 4 ปี และเรียนจบไปอยากมีคุณภาพ หลังจากนั้น โลกแห่งความเป็นจริงก็ได้รอเราอยู่ ความรู้ที่เราเรียนมาแทบจะใช้จริงในการทำงานไม่ได้เลย เราต้องปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงตามระบบขององค์กรที่เราได้เข้าทำงาน  แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงเวลา 4 ปีที่เราเรียนอยู่ในรั้วมหาลัยมันก็ช่างน่าเสียดายหากเรานั้นได้นำเพียงแค่ความรู้ติดตัวออกมาเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อเราได้เข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเราจะรู้ว่า สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตของเรานั้น แค่ความรู้อย่างเดียวมันยังไม่พอ  วันนี้ผมมี 3 สิ่งที่สำคัญที่อยู่ในรั้วมหาลัยที่อยากจะแนะนำให้ผู้อ่านที่ยังเป็นนักศึกษา อย่าลืมหยิบติดไม้ติดมือออกมาด้วย เพรา

บทความ เรียนไปแล้วไม่ได้ใช้ทำไงดี

รูปภาพ
  ภาพหน้าปกจาก unsplash.com เป็นความจริงที่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้นถึงจะรู้เรื่องนี้ เรื่องที่ว่านั่นก็คือ สิ่งที่เราเรียนมาหลาย ๆ อย่างเราแทบไม่ได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์เลยในชีวิตของเราเลย  บางวิชาที่เราเรียนในระบบการศึกษาก็เช่นกัน เมื่อโตขึ้นเราถึงได้รู้ว่าเราไม่ได้ใช้มันเลยสักนิดเดียว เมื่อรู้เช่นนี้แล้วมันจึงเกิดเป็นคำถามว่าแล้วเราจะเสียเวลาเรียนสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ในอนาคตไปทำไมกัน  สมัยเรียนผมเครียดกับหลายวิชามาก ๆ ต้องทำรายงานส่ง ต้องอ่านหนังสือสอบต้องทุ่มเทเวลาให้กับมัน บางวิชาถึงขนาดต้องเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนเลยทีเดียว พูดง่าย ๆ คือ พยายามอย่างมากที่จะทำความเข้าใจความรู้ในวิชานั้นให้ได้อย่างถ่องแท้ แต่สุดท้ายเมื่อโตขึ้นผมกลับพบว่าสิ่งที่ผมได้ทุ่มเทลงไปนั้นมันสูญเปล่า  ความรู้บางอย่างเราก็ไม่ได้ใช้เลยแม้แต่น้อยในชีวิตของเรา มันอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราเอาเวลาที่เราต้องเรียนวิชาที่มันไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ไปเรียนวิชาที่ มีความเกี่ยวข้องกับอาชีพในอนาคตของเราตั้งแต่ตอนนั้นมันก็คงจะดีไม่น้อย  แต่ความเป็นจริงก็คือในตอนนั้นเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโตขึ้นเราจะเป็นอะไร แล้วถ้ามีคนจะมาถามว่

บทความ ในวันที่ฮาร์ดดิสก์พังความทรงจำหาย

รูปภาพ
  ภาพหน้าปกจาก unsplash.com เมื่อประมาณ 7 ปีก่อนผมซื้อฮาร์ดดิสโน๊ตบุ๊คมา 1 ตัว ความจุอยู่ที่ประมาณ 2,000 TB เลยทีเดียว มันมากพอที่จะเก็บทุกอย่างลงไปในนั้น แต่สุดท้ายแล้วผมก็เลือกใช้มันเพื่อเก็บเฉพาะความทรงจำในชีวิตของผม รูปภาพและวีดีโอนับพันถูกเก็บลงไปใน ฮาร์ดดิสก์ ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ความทรงจำก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อผมเสียบฮาร์ดดิสก์เข้ากับคอมพิวเตอร์ แต่มันเกิดไม่ตอบสนองขึ้นมา ความรู้สึกของผมในตอนนั้นคือตกใจมาก ๆ เพราะถ้าเกิดสิ่งที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกนี้หายไปเท่ากับความทรงจำมากมายในชีวิตของผมก็จะหายตามมันไปด้วย  ผมพยายามกู้คืนอยู่นานมากแต่ไม่สำเร็จจึงพาไปให้ที่ร้านกู้ให้สุดท้ายต้องเสียค่าใช้จ่ายมากพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรผมก็เต็มใจจ่ายเพื่อที่จะได้มันกลับคืนมา  ตอนนี้ได้มันกลับคืนมาแล้วแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าความทรงจำที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ ลูกนี้หายไปจริง ๆ จะเป็นยังไง ถ้าให้ผมย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมคงนึกออกไม่หมดอย่างแน่นอน ความทรงจำดี ๆ หลาย ๆ อย่างมันถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของวีดีโอ และรูปภาพ มั

บทความ อะไรที่มีคำว่าอย่ามีคนทำเสมอ

รูปภาพ
  ภาพหน้าปกจาก unsplash.com คุณผู้อ่านเคยสงสัยเหมือนผมไหมครับว่า มีคำสอนและคำคมมากมายที่มีคำว่า “อย่าทำ” อยู่ในนั้น ซึ่งแน่นอนว่าคำสอนและคำคมเหล่านั้นย่อมส่งเสริมให้คนที่กระทำตามมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย  แต่ผมก็เกิดคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าเราเปิดใจกว้างแล้วลองมองไปรอบ ๆ ตัวของเราให้ดี ๆ เราจะค้นพบว่าอะไรก็ตามที่มีคำว่า “อย่า” มักจะมีคนทำเสมอเลย  ยกตัวอย่างเช่น อย่าเดินลัดสนาม อย่าพูดจาโกหกมดเท็จ อย่าดื่มสุราเวลาขับรถ เป็นต้น อะไรก็ตามที่มีคนห้ามไว้ มีคนบอกว่ามันไม่ดีนะอย่าทำ ก็มักจะมีคนแหกกฎและทำอยู่เสมอ แล้วที่สำคัญก็คือคนที่ทำอยู่เสมอที่ผมกล่าวนั้นคือคนส่วนมากซะด้วยสิ  ความสงสัยนี้คลี่คลายลงเมื่อผมไปถามคนหลายคนว่าเชื่อในคำคมหรือคำสอนเหล่านั้นบ้างหรือเปล่า คนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเชื่อแต่เมื่อผมถามว่าแล้วทำไมถึงยังคงเลือกที่จะทำในทางตรงกันข้าม พวกเขากลับมีเหตุผลรองรับในแบบฉบับของพวกเขาอยู่เต็มไปหมด  ที่แท้มนุษย์เรานั้นให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองเป็นอันดับ 1 ส่วนเรื่องจะผิดหรือถูกนั้นมาเป็นอันดับ 2 หากความต้องการของตัวเองให้ไปทางซ้ายส่วนความถูกต้องบอกให้ไปทางขวา เราจะสร้างความ

บทความ อยากให้ชีวิตเป็นแบบไหนกำหนดได้ด้วยความเคยชิน

รูปภาพ
 อยากให้ชีวิตเป็นแบบไหนกำหนดได้ด้วยความเคยชิน  เรื่องบางอย่างที่เราทำในชีวิตไม่ว่าจะเป็น การไม่พับผ้าห่ม การจัดข้าวของอย่างไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ปล่อยให้ห้องรก หรือลายมือชุ่ย ๆ ของเรา รวมถึงการผัดวันประกันพรุ่ง แน่นอนว่าต้นเหตุมันเกิดจากความขี้เกียจ แต่เราทุกคนก็ต่างให้เหตุผลในการทำสิ่งเหล่านั้นเมื่อมีคนถามเสมอว่า ก็เราเคยชินกับการทำแบบนี้แล้วนี่นา มันเป็นนิสัยของเรา มันเป็นตัวตนของเรา จะให้เลิกทำได้ยังไง  เพื่อนของผมคนหนึ่งกินเยอะจนเป็นนิสัย แล้วบอกว่าฉันไม่สามารถหยุดกินอาหารมื้อดึกได้ แต่ถ้าลองย้อนกลับไป เขาได้เล่าว่า ตอนแรกเขาเป็นคนไม่กินมื้อดึกเลยนะ แต่มีคืนหนึ่งที่เขารู้สึกหิวมากก็เลยลองหยิบขนมในตู้เย็นมากินดู หลังจากนั้นก็เริ่มทำบ่อยขึ้น จนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้การกินมื้อดึกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปซะแล้ว  มีคุณลุงชาวญี่ปุ่นคนนึงที่ผมดูทางทีวี เขาบอกว่าเขานั่งดูพ่อแกะสลักไม้ตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งเขาก็ลองหยิบอุปกรณ์ของพ่อมาเล่นดูบ้าง แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ การแกะสลักไม้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปซะแล้ว และเขาทำอาชีพนี้มาถึง 30 ปี  ที่แท้หลาย ๆ สิ่งในชีว

บทความ ข้อคิดดี ๆ จากเจ้าของร้านขายสัตว์เลี้ยง

รูปภาพ
ครั้งหนึ่งผมเคยเดินเที่ยวสวนจตุจักรและพบกับร้านขายสัตว์เลี้ยง ที่นั่นมี สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักมากมายให้เราเลือกสรร แต่สิ่งที่สะดุดตาผมเป็นอย่างมากนั่นคือ ลูกสุนัขตัวสีขาว หน้าตาของมันช่างแสนน่ารักเกินกว่าที่จะทนไหว เมื่อถูกตาต้องใจผมจึงรีบถามราคากับพ่อค้าในทันที  พ่อค้าไม่ตอบ แต่กลับบอกบางสิ่งกับผมมา เขาบอกว่า หมาน้อยน่ารักตัวนี้วันหนึ่งมันจะโตขึ้น วันหนึ่งมันจะส่งกลิ่นเหม็น วันหนึ่งมันจะเห่าหอนโดยไม่เลือกเวลา และวันหนึ่งมันจะเป็นโซ่ตรวนที่ทำให้น้องไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ นาน ๆ ไม่ได้  ถ้าจะเลี้ยงมัน น้องพร้อมที่จะดูแลมันไปตลอดชีวิตหรือเปล่า  “ดูแลมันไปตลอดชีวิต” บอกตรง ๆ ว่าคำนี้เป็นคำที่ไม่มีอยู่ในหัวผมเลย เพราะในหัวของผมแค่เห็นมันน่ารักก็เลยอยากได้มาเป็นเจ้าของ อยากได้มันมาครอบครองก็เท่านั้นเอง แต่การที่เราซื้อมันมา เราต้องมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลมันไปตลอดชีวิต เราต้องมีทุนทรัพย์มากพอพี่จะเลี้ยงมันโดยไม่ให้มันลำบาก เราต้องมีเวลาให้กับมัน ต้องให้ความรัก และใส่ใจมัน และแน่นอนเราต้องยอมรับข้อเสียต่าง ๆ ที่มีให้ได้  “อย่าให้ความน่ารักทำให้คุณต้องซื้อมันไปโดยขาดความรับผิดชอบโดยเด็ดขาด”