บทความ เทคนิคลับฉบับคนชอบคิดมาก

ภาพหน้าปกจาก unsplash.com

 ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนรู้ดีนั่นก็คือ ชีวิตนั้นมีทั้งความสุข และความทุกข์ปะปนกันไป มีกลางวันก็มีตอนกลางคืน เมื่อมีน้ำขึ้นก็ต้องมีน้ำลง มันจะสลับกันไปอยู่อย่างนั้น 

ถึงแม้จะรู้อย่างนั้นก็ตามแต่เมื่อความทุกข์ก้าวเข้ามาในชีวิตของเรา เราก็มักชอบคิดว่ามันจะอยู่กับเราไปตลอด อยู่อย่างถาวรเสมอ ดังนั้นก่อนที่ผมจะพูดอะไรต่อจากนี้ เราต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม แต่อย่างไรสุดท้ายแล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป 


เมื่อเราเข้าใจตรงกันแล้วว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร เพราะไม่ว่าตอนนี้เราจะรู้สึกแย่แค่ไหนเดี๋ยวมันก็จะหายไป แล้วความสุขก็จะเข้ามาเยือน 


แต่ถึงเราจะเข้าใจแล้วก็ตามว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป แต่มันยังมีช่วงเวลาหนึ่งที่ทุกคนต้องเจอ นั่นก็คือช่วงที่มันยังไม่ผ่านไปยังไงล่ะ ช่วงเวลานั้นเราควรจะทำอย่างไรกับมันดี จะทำร้ายตัวเอง อยู่เฉย ๆ ปล่อยให้เวลามันผ่านไป หรือเราควรที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างให้มันเกิดประโยชน์ดีล่ะ 


เทคนิคที่กำลังจะบอกต่อจากนี้เป็นเทคนิคลับสุดยอดที่ผู้เขียนได้เคยทดลองทำด้วยตัวเอง แล้วมันใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก จึงอยากจะให้ผู้อ่านลองเปิดใจแล้วลองทำตามดู เพราะมันช่วยได้อย่างแน่นอน 


เนื่องจากมันเป็นเทคนิคที่ผู้เขียนคิดขึ้นมาเอง ชื่อมันก็อาจจะฟังไม่สวยหรูสักเท่าไหร่นัก ผมตั้งชื่อมันว่า การใช้ร่างกายทำอะไรก็ได้ให้มันยุ่ง ๆ ชื่ออาจจะฟังดูไม่เท่เอาซะเลย แต่มันเป็นความจริงครับ ช่วงที่คนเรากำลังคิดมาก หรือกำลังเครียดอยู่นั้นไม่มีใครอยากใช้สมองทำอะไรอย่างแน่นอน 


ก่อนอื่นตัดการดูหนังฟังเพลงทิ้งออกไปก่อนเลยครับ เพราะในช่วงเวลาที่คุณกำลังเครียดสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้เลยแม้แต่น้อย ช่วงเวลาที่คุณหมดไปกับการ ดูหนัง ฟังเพลง สมองของคุณยังคงว่างพอที่จะคิดฟุ้งซ่าน และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้คุณยังคงทุกข์ทรมานกับความรู้สึกแย่ ๆ นั้นเอง 


เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ถึงผมจะบอกว่ามันคือการใช้ร่างกายทำอะไรก็ได้ให้มันยุ่ง ๆ แต่ผมก็คงไม่ทิ้งคุณไว้กลางทาง แล้วให้คุณนั่งคิดเอาเองว่าจะใช้ร่างกายทำอะไรดีหรอกนะครับ เพราะผมได้สร้างทางเลือกให้กับคุณผู้อ่านไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 


1. จงใช้เวลาให้หมดไปกับการดูแลตัวเอง 

การดูแลตัวเองในที่นี้ไม่ใช่แค่ออกกำลังกายลดน้ำหนักนะครับ แต่มันหมายถึงทุกอย่างเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งภายนอกและภายใน อะไรก็ตามที่ทำให้คุณดูดีขึ้น นั่นถือเป็นการดูแลตัวเองทั้งหมด อาจจะเริ่มจากง่าย ๆ โดยการไปตัดผม ซื้อเสื้อผ้าใหม่ สร้างกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย ดูแลผิวพรรณรวมไปถึงใบหน้าให้สวยหล่อมากยิ่งขึ้น ฝึกปรับบุคลิกภาพให้ดูดีมากยิ่งขึ้น 


มีประโยคหนึ่งที่ใครบางคนเคยพูดไว้ว่า "ถ้าคิดจะรักคนอื่น กลับไปรักตัวเองให้เป็นเสียก่อน" การดูแลตัวเองเป็นอย่างดีถือเป็นการรักตัวเองรูปแบบหนึ่ง และเป็นการสร้างคุณค่าให้กับตัวเองอีกด้วยเมื่อเรื่องแย่ ๆ ผ่านพ้นไปสิ่งที่จะคงเหลืออยู่ในชีวิตของคุณนั่นก็คือ ตัวตนของคุณที่ดูดีกว่าเก่า และนั่นจะส่งผลให้มีคนดี ๆ และเรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้น และคุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 


2. จงใช้เวลาให้หมดไปกับการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

นั่นก็หมายความว่าคุณต้องใช้ร่างกายของคุณไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่มันทำร่วมกับผู้อื่น จะไปเล่นกีฬา จะไปเรียนเสริม หรือจะไปบำเพ็ญประโยชน์ ทำอะไรก็ได้แต่อย่าทำคนเดียว ให้ทำร่วมกันกับใครบางคน การทำกิจกรรมกับผู้อื่นจะทำให้คุณนั้นสนใจตัวเองน้อยลง และให้ความสนใจกับคนอื่นมากขึ้น อีกทั้งมันยังช่วยสร้าง มิตรภาพที่ดีให้กับคุณอีกด้วย แล้วถ้าโชคดีเกิดได้ทำความรู้จักกับใครบางคน คุณจะรู้ว่าแท้จริงแล้วชีวิตของทุกคนนั้นล้วนมีปัญหาไม่ต่างกันเลย 


3. จงใช้เวลาให้หมดไปกับการทำความสะอาดห้องพัก 

สำหรับบางคนแล้วไม่มีเงินมากพอที่จะดูแลตัวเอง และไม่มีอารมณ์ที่จะไปร่วมกิจกรรม รู้สึกอยากเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่คนเดียว ซึ่งจะเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่คนเดียวก็ได้นะครับ เพราะว่าผมได้มีทางเลือกที่ 3 รออยู่แล้วเหมือนกัน นั่นก็คือ จงใช้ร่างกายของคุณทำความสะอาดห้องพักของคุณให้หมดจด แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่การทำความสะอาดธรรมดาอย่างแน่นอน แต่มันคือการปัดกวาดเช็ดถูทุกซอกทุกมุมให้หมดเลยนะครับ ขี้ฝุ่นนิดเดียวก็ต้องไม่มี รอยด่างดำสักนิดก็ไม่ได้ ค่อย ๆ ถูค่อย ๆ ขัดไป แล้วถ้าเกิดมีอะไรในบ้านของเราที่ชำรุด จงซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ทำให้ที่อยู่อาศัยของเราดูดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ 


หลายคนอาจจะถามว่าทำไมต้องหมดเวลาไปกับการทำความสะอาดบ้านด้วย นั่นก็เพราะว่าการมีบ้านที่สวยและสะอาดโล่งและปลอดโปร่ง หรือเรียกรวม ๆ ว่าการมีที่อยู่อาศัยที่ดี ก็ย่อมทำให้คุณภาพชีวิตของเรานั้นดีตามไปด้วยยังไงล่ะ 


จะเห็นว่าทั้ง 3 ข้อที่ผมแนะนำไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการพัฒนาตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเอง สร้างสังคมให้กับตัวเอง หรือดูแลที่อยู่อาศัยของตัวเอง ปัจจัยทั้ง 3 สิ่งนี้คือปัจจัยที่ทำให้สภาพจิตใจ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์เรานั้นดีขึ้น มันไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรหรอกครับ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หากเราลองทำได้ 3 วิธีนี้จนหมดแล้วละก็ รู้ตัวอีกทีเราก็จะก้าวข้ามผ่านช่วงเลวร้ายในชีวิตไปแล้วเหมือนกัน 



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ คนสวยก็มีความทุกข์ในแบบของคนสวยเหมือนกัน

บทความ เกมให้คะแนนสาวสวย

บทความ สระว่ายน้ำของคนโง่