บทความ ของ3สิ่งที่ควรหยิบติดมือมาด้วยก่อนเรียนจบมหาลัย
ภาพหน้าปกจาก unsplash.com |
ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในมหาลัยหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนผมว่าการเรียนในระดับมหาลัยนั้นเราจะเรียนเล่น ๆ เหมือนตอนสมัยมัธยมไม่ได้อีกแล้ว เพราะตอนนี้เราได้เลือกเรียนสาขาวิชาที่มันเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และความรู้ต่อจากนี้มันคือความรู้ที่เราจะต้องนำไปประกอบอาชีพอย่างแท้จริง (ในกรณีที่ทำงานตรงสายที่เรียนมานะ)
ดังนั้นการตั้งใจเรียนหนังสือจึงเป็นเรื่องที่นักศึกษาทุกคนรู้อยู่แก่ใจ หลายคนตั้งใจเรียนตลอด 4 ปี และเรียนจบไปอยากมีคุณภาพ หลังจากนั้น โลกแห่งความเป็นจริงก็ได้รอเราอยู่ ความรู้ที่เราเรียนมาแทบจะใช้จริงในการทำงานไม่ได้เลย เราต้องปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงตามระบบขององค์กรที่เราได้เข้าทำงาน
แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงเวลา 4 ปีที่เราเรียนอยู่ในรั้วมหาลัยมันก็ช่างน่าเสียดายหากเรานั้นได้นำเพียงแค่ความรู้ติดตัวออกมาเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อเราได้เข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเราจะรู้ว่า สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตของเรานั้น แค่ความรู้อย่างเดียวมันยังไม่พอ
วันนี้ผมมี 3 สิ่งที่สำคัญที่อยู่ในรั้วมหาลัยที่อยากจะแนะนำให้ผู้อ่านที่ยังเป็นนักศึกษา อย่าลืมหยิบติดไม้ติดมือออกมาด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชีวิตของเราในอนาคตอย่างแน่นอน
1. มิตรภาพ
ในช่วงที่เรายังเป็นนักศึกษาอยู่นั้นการมีเพื่อนห้อมล้อมอยู่รอบกายเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก แต่หลังจากเรียนจบไปแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตัวเอง และส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลยอย่างไรก็ตามจงอย่าลืมว่าเพื่อน ๆ ที่เรียนสายเดียวกับเรามานั้น มีเส้นทางเดินสู่อาชีพที่ไปในทิศทางเดียวกับเรา ดังนั้นหากสามารถติดต่อหรือยังไปมาหาสู่กันได้ย่อมเป็นผลดีต่อตัวเราอย่างแน่นอน
เพราะในโลกของการทำงาน คนที่อยู่หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีทางขึ้นที่สูงได้หรอก การรู้จักคนให้มาก ๆการสร้าง Connection กับคนให้เยอะๆ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ
ก็ในเมื่อตอนที่เรียนมหาลัย มิตรภาพมีอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด แล้วเรามีเหตุผลอะไรที่จะไม่เก็บรักษาสิ่งเรานั้นไว้ล่ะ ไม่แน่ในอนาคตเพื่อนที่นั่งเรียนอยู่ในห้องเดียวกับเรา อาจจะคอยส่งเสริมเรา หรือช่วยเหลือเราแก้ปัญหาบางอย่างก็ได้นะ
2. รางวัล
การแข่งขันต่าง ๆ เป็นตัวการันตีความสามารถของเราได้ดีกว่าเกรดเฉลี่ยซะอีก หากในช่วงมหาลัยคุณมีเวลาว่างที่เหลือจากการเรียนแล้วละก็ ทำไมไม่ลองเอาเวลาเหล่านั้นไปใช้กับการแข่งขันหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสะสมประสบการณ์ดูล่ะ ที่สำคัญก็คือทุกครั้งที่คุณร่วมการแข่งขันหรือประกวดอะไรสักอย่างมักจะมีแมวมอง แฝงตัวเข้ามาในงานเหล่านั้นเสมอ หากคุณโดดเด่นมากพอ คุณอาจจะได้งานก่อนที่จะเรียนจบเลยก็ได้ ดังนั้นจงอย่าพลาดโอกาสที่จะร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ เพราะนอกจากจะได้ประสบการณ์แล้วยังทำให้ portfolio ของเราน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
3. สุขภาพ
เมื่อเข้าสู่วัยทำงานสิ่งที่ทุกคนจะต้องประสบพบเจอนั่นก็คือสุขภาพที่แย่ลงเรื่อย ๆ โรคที่เกิดจากการนั่งทำงานในออฟฟิศก็มีมากมายรวมไปถึง อาการป่วยเรื้อรังที่จะเกิดในอนาคตอันไกล ถึงแม้เราจะมีความสามารถมากเพียงใด หรือมีคนคอยสนับสนุนมากแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายถ้าร่างกายของเราไม่ไหวซะเอง เราก็ไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ ในช่วงที่เรายังหนุ่มสาวและมีเรี่ยวแรงและเวลามากพอก็ควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากเราสามารถแบ่งเวลาเพื่อจัดการกับสุขภาพร่างกายของเราอย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็ ไม่ว่าอนาคตเราจะพบเจอกับงานที่ยากลำบากหรือหนักมากแค่ไหนก็ตามร่างกายเราก็จะยังคงทำไหว และนั่นถือเป็นความได้เปรียบมหาศาลเมื่อเทียบกับคนที่ร่างกายอ่อนแอ
ในชีวิตของคนเราทุกคนหนึ่งวันนั้นมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน นักศึกษาบางคนหมดเวลาครึ่งวันไปกับการเล่นเกม บางคนหมดครึ่งวันไปกับการนอน บางคนหมดครึ่งวันไปกับการจีบสาว ไม่ว่าคุณจะใช้เวลา 4 ปีไปกับการทำอะไรก็ตามแต่เป้าหมายของทุกคนหลังเรียนจบนั้นมีเหมือนกัน นั่นก็คือการเข้าสู่โลกของการทำงาน
จงแบ่งเวลาให้ดี ใช้ให้เหมาะสม เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องกลับมานั่งเสียใจที่ลืมหยิบอะไรออกมาจากรั้วมหาลัย อย่าปล่อยให้เวลาศูนย์เปล่า อย่าปล่อยให้เวลาเสียไป ก่อนที่รั้วมหาลัยจะปิดตัวลงสำหรับคุณตลอดกาล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น