บทความ จงเป็นเพื่อนกับเทคโนโลยี


ภาพหน้าปกจาก pexels.com


ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีแล้วผมจะแบ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยที่สุดออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่เทคโนโลยีที่สร้างความบันเทิง และเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิต


ลองคิดดูนะครับสมัยก่อนเราใช้เครื่องพิมพ์ดีดถ้าหากเราพิมพ์ผิด 1 ครั้งต้องเขียนใหม่ทั้งหมดแต่เมื่อเราเปลี่ยนมาใช้เป็นคอมพิวเตอร์หากเราพิมพ์ผิดก็แค่ลบแล้วก็พิมพ์ใหม่เท่านั้นเอง 


ในตอนที่ผมยังเด็กนั้น ผู้ใหญ่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจงฝึกพิมพ์ให้ชำนาญให้คล่องแคล่ว เด็กหลายคนหลังเลิกเรียนถูกบังคับให้ต้องไปเรียนพิมพ์ดีด 


แต่เมื่อมาถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องพิมพ์อีกแล้ว เพียงแค่พูดออกมาคอมพิวเตอร์ก็พิมพ์ให้กับเรา ทำให้ไม่ว่ามนุษย์คนไหนที่มีความสามารถในการพิมพ์ดีดได้เร็วที่สุดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะพิมพ์เร็วสู้กับการพูดได้ 


แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากที่ติดการพิมพ์ด้วยมือจากคีย์บอร์ดอยู่ดี 


อย่างที่พูดไว้ข้างต้นเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิต หากเราใช้ให้มันเกิดประโยชน์มันจะช่วยประหยัดเวลาชีวิตของเราได้มากเลยทีเดียว ถึงแม้เทคโนโลยีบางอย่างอาจจะไม่ฟรีต้องยอมลงทุนเสียเงินเพื่อซื้อมันมาใช้งานก็ตาม 


แต่ถ้าหากมันสามารถมอบความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการทำงานให้กับเราได้ ผมว่ามันก็คุ้มนะครับ มีเพื่อนของผมคนหนึ่งรับจ้างแปลภาษาอังกฤษเขาทำได้อย่างคล่องแคล่วและรับแปลในจำนวนมาก


ในมุมมองของคนอื่นคิดว่าเพื่อนของผมคนนั้นเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เรียนเก่งขนาดนั้นเลย ก็แค่พออ่านออกเขียนได้ แต่ที่เขาสามารถรับงานแปลได้มากมายนั่นก็เพราะว่า เขาได้ซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปตัวหนึ่งที่มีมูลค่าเพียงแค่ พันกว่าบาท 


แล้วเขาก็ใช้มันเพื่อแปลมาโดยตลอด นี่คือความแตกต่างระหว่างคนที่มีเทคโนโลยีอยู่ในครอบครอง และคนที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีหรือไม่รู้จักใช้มันให้เกิดประโยชน์ 


ถ้าคุณผู้อ่านเคยกิน KFC คิดว่าทำไมไก่ทอดมันถึงมีรสชาติและกรอบเหมือนทุกครั้งได้ล่ะ มันไม่ใช่ฝีมือคนที่จะมานั่งทอดอยู่แล้ว แต่เขามีเครื่องทอดที่จะสามารถกำหนดเวลาและอุณหภูมิให้คงที่ได้ยังไงล่ะ 


ช่างน่าเสียดายที่คนจำนวนมากยังคงยึดติดอยู่กับความเคยชินเดิม ๆ และไม่ยอมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ บางคนรู้จักเป็นอย่างดีแต่ไม่เคยคิดที่จะเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ มันทำให้พวกเขาเหล่านั้นเสียเงิน และเสียเวลามากมายเพื่อแลกกับการที่ไม่ยอมเรียนรู้และเปิดใจรับเทคโนโลยี 


เพราะคนที่เดินอยู่ข้างถนนไม่มีทางถึงเป้าหมายได้เร็วเท่ากับคนที่ขับรถยนต์อย่างแน่นอน จงใช้เทคโนโลยีให้เป็น ใช้ให้เกิดประโยชน์ เริ่มจากก้าวแรกด้วยการเปิดใจยอมรับมันซะ 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทความ แตะตัวทำให้ชอบกันได้ไหม

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ ทำนายชีวิตรัก ด้วยความรักทั้ง 6 รูปแบบ

บทความ เทคนิคการจีบสาว ฉบับเจ้าของเพจสายลมแห่งชีวิต