บทความ คนโสดมีเวลาน้อยกว่าคนมีแฟน
เวลาผมอ่านบทความเกี่ยวกับข้อดีของการเป็นโสดทีไร หนึ่งในข้อดีเหล่านั้นมักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่คนโสดมักจะมีเวลาในการทำอะไรตามใจตัวเองได้มากกว่าคนที่มีแฟนอยู่เสมอ
คนโสดมีอิสระมากกว่า อยากไปไหน อยากทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครโทรจิก โทรตาม ดังนั้นชีวิตโสดจึงมีเวลาในการทำอะไรเพื่อตัวเองมากกว่าคนที่มีแฟนอย่างแน่นอน
แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ
เพราะจากการสำรวจวิถีชีวิตของคนรอบ ๆ ตัวผม รวมถึงตัวผมตอนที่เป็นโสดกลับพบว่า เราไม่ได้มีอิสระทางเวลาอย่างที่คิดเลย
(สิ่งที่กำลังจะบอกต่อไปนี้ ไม่ได้เหมารวมนะครับหมายถึงคนรอบ ๆ ตัวผมเท่านั้น )
คนโสดมักจะเก็บตัวอยู่ในห้อง เมื่อพวกเขาเลิกงาน พวกเขามักจะกลับบ้านและเก็บตัวอยู่ในนั้น ในวันหยุดสุดสัปดาห์พวกเขาก็ไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวที่ไหน ในขณะที่คนที่มีแฟน มักจะมีกิจกรรมหลังเลิกงานกับแฟนอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่าในวันหยุดพวกเขามักจะชวนกันไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ
คนโสดมักจะหมดเวลาไปกับการแสวงหาความรัก แน่นอนว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในสมัยนี้ก็คือหาในอินเทอร์เน็ต และนั่นมันเสี่ยงต่อการถูกหลอก หลายครั้งเรามักจะเสียเวลาไปกับคนที่ไม่ใช่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีวันหยุดก็หมดลงเสียแล้ว
ข้อสุดท้ายที่น่าแปลกใจก็คือคนโสดไม่ได้มีแนวโน้มในการดูแลตัวเองมากเหมือนที่เราคิด พวกเขามักจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวอยู่เสมอ มักจะชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ในขณะที่คนมีแฟน จะหมั่นดูแลตัวเองและชอบแต่งตัวมากกว่า แถมในบางครั้งยังมีคนคอยช่วยดูแลอีกด้วย
ขอย้ำอีกครั้งสิ่งที่พูดทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวที่มีต่อคนรอบตัวของผมเท่านั้น ไม่ได้เหมารวมใครทั้งสิ้น
ที่สำคัญก็คือคนโสดมักจะมีแนวโน้มที่จะหมดเวลาไปกับความรู้สึก เศร้า เหงา และเซ็ง มากกว่าคนที่มีแฟนอีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมาจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่มีแฟนจึงมีเวลามากกว่าคนโสด
แต่ถ้าเราอ่านดูให้ดีเราจะพบว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล คนบางคนโสดแต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมพูดก็มีออกถมไป จริง ๆ แล้วความโสดอาจจะไม่ใช่ต้นเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นได้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าคุณไม่กล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตอยากมีความสุขเองหรือเปล่า
อย่าปล่อยให้สถานะทำให้คุณอดใช้ชีวิตอย่างที่คุณวาดฝัน เพราะไม่เคยมีกฎหมายลงโทษคนโสด ดังนั้นคุณไม่มีความจำเป็นต้องรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่คุณเป็น คุณไม่จำเป็นต้องไปอิจฉาความสุขของคู่รักหรอก เพราะคู่รักก็ไม่มีสิทธิ์จะมีความสุขในชีวิตในแบบที่คุณเป็นเหมือนกัน
เพราะว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ไปจ้องมองข้อดีของเขาแล้วหันมามองข้อเสียของตัวเรา ความสุขไม่ได้อยู่ที่สถานะแต่อยู่ที่คุณมองเห็นข้อดีในสิ่งที่คุณเป็นหรือเปล่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น