บทความ ประสบการณ์เฉียดตายระหว่างเดินทางไปที่ลพบุรี

เมื่อหลายปีก่อนผมขับรถไปที่จังหวัดลพบุรีเพื่อไปทำงาน ซึ่งผมก็ขับอยู่อย่างนี้มาจะเป็นปีแล้วนะ แต่ก็ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่วันนี้มันต่างออกไป บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนแล้วรถที่ขับบนถนนก็มีน้อยคันมาก 

ด้วยความที่ผมไม่ได้รีบร้อนที่จะไปให้ถึงจุดหมายสักเท่าไหร่ก็เลยค่อย ๆ ขับรถอย่างช้า ๆ แล้วผมก็ได้เหลือบมองไปข้างถนน ผมสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายวัยกลางคน ใส่เสื้อยืดเก่าๆ ๆ กางเกงขาสั้นลายทหาร ถือถุงอะไรสักอย่างยืนอยู่ข้างถนน และจ้องมองมาที่ตัวผม 

ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ผมมองเห็นเขาแต่ไกล และเห็นเขากำลังจะเดินข้ามถนน ผมจึงค่อย ๆ ชะลอลดลง แต่ยิ่งผมขับรถเข้าไปใกล้เขามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเดินเข้ามาใกล้รถผมมากเท่านั้น ในเสี้ยววินาทีที่ไม่ปกติ เพราะชายคนนั้นแทบจะเดินมาชนรถของผมที่วิ่งอยู่กลางถนนอยู่แล้ว ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน 

ทันใดนั้นเขาก็หยิบก้อนหินออกมาจากถุงและเขวี้ยงใส่กระจกรถผมอย่างแรง สายตาของผมมองที่ถุงของเขาและเห็นชัดว่ามีก้อนหินก้อนใหญ่บรรจุไว้เต็มไปหมด 

เสียงดังตูม ก้อนหินปะทะกับกระจกหน้ารถของผมเข้าอย่างจัง ผมตกใจมากเพราะคิดว่าจะต้องตายแล้วแน่ ๆ แต่ถึงจะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ผมก็ยังขับรถต่อไปโดยไม่จอดรถนะ คือมันคิดไม่ทันจริง ๆ ว่าผมต้องทำอะไรต่อจากนั้น หลังจากหายตกใจผมมองที่กระจกรถแล้วพบว่ากระจกไม่แตกก้อนหินที่ชายคนนั้นปาใส่รถผม มันคือก้อนดินแดงที่จับตัวเป็นก้อน 

แต่สิ่งที่ผมเห็นชัดก็คือในถุงก๊อปแก๊ปที่เขาห้อยอยู่ตรงเอว มีก้อนหินจริง ๆ อยู่หลายก้อนมาก ผมรีบขับรถตรงไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ แต่เมื่อขับไปสักพักฝนก็ตกลงมาทำให้ก้อนดินที่ติดอยู่หน้ารถผมค่อย ๆ เลือนหายไปจนเหลือแค่นิดเดียว

เมื่อผมไปถึงโรงพักบอกตรง ๆ ว่าเกิดมายังไม่เคยขึ้นโรงพักเลยครับ ผมต้องแจ้งความกับใครหรือต้องไปที่ไหนก็ไม่รู้ ตำรวจท่านหนึ่งก็บอกว่าให้เข้าไปในห้องนี้ พอผมเข้าไปก็ไม่เห็นมีตำรวจคนไหนสนใจผมเลย แล้วก็เห็นมีคนนั่งอยู่เต็มโรงพักไปหมดด้วย ตำรวจทุกคนก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง 

ผมทำตัวไม่ถูกก็เลยเดินออกมาจากโรงพัก แล้วก็โทรหา 191 แทน พอมีสติมากขึ้นก็นึกขึ้นได้ว่าเราควรจะโทรบอก 191 ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว 

แต่ก็โชคดีเหมือนกันนะครับที่การไม่มีสติของผมทำให้ผมขับรถต่อไป เพราะถ้าผมเกิดบันดาลโทสะแล้วจอดรถเพื่อลงไปมีเรื่องกับเขา ผมอาจจะโดนก้อนหินปาใส่จนหัวแตกก็ได้ ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้น่ากลัวมากเลยครับ เพราะผมแค่โชคดีที่ก้อนหินที่เขาหยิบขึ้นมาดันเป็นก้อนดิน แต่รถคันอื่นหลังจากผมล่ะพวกเขาจะเป็นอย่างไร แถมตอนนั้นฝนก็เริ่มตกหนักแล้วด้วย ยิ่งทัศนวิสัยในการขับไม่ดีแล้วโดนปาหินใส่อีกอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ได้ 

ก็เล่าสู่กันฟังครับ ใครขับรถในที่เปลี่ยว ๆ ก็ระวังคนข้างทางไว้ด้วยนะครับ เพราะสมัยนี้เรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ 

สถานที่เกิดเหตุก็คือก่อนจะถึงปั๊มใกล้ ๆ วัดพระพุทธบาท ไม่เกิน 5 กิโลครับ ไม่รู้ว่าตำรวจจะจับคนร้ายไปได้หรือยัง ก็อยากให้ทุกคนระวังตัวไว้นะครับ