บทความ วัยนั่งเหม่อ
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ผมเคยถามคุณตาของผมว่านั่งมองอะไร แล้วท่านก็ตอบว่า ก็มองไปเรื่อย แต่หลังจากตอบเสร็จ ท่านก็เริ่มเล่า ถึงเรื่องราวในอดีตให้ผมฟัง ในตอนนั้นผมจึงรู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่เขากำลังเหม่อมองนั้นคือภาพความทรงจำในอดีตที่ผ่านมา ในชีวิตของตัวเขาเอง
เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัยชราอายุมากเข้า ร่างกายของเราจะไร้สิ้นเรี่ยวแรง สภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะไปทำกิจกรรมอะไรทั้งนั้น แค่นั่งอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว และสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอวัยวะทั้งหมดที่กำลังเสื่อมถอย นั่นก็คือสมองของเรา
ถ้าอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ต่อให้เราแก่ชราอายุ 100 ปี ถ้าเราไม่เจ็บป่วย สมองที่สมบูรณ์ก็ยังสามารถทำงานได้อย่างปกติ ไม่ต่างจากคนทั่วไป
นั่นมันจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผม กลับมานั่งคิดทบทวนวิธีการใช้ชีวิตเสียใหม่ เมื่อยามแก่เฒ่าในวัยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก สิ่งเดียวที่จะอยู่กับเราไม่ใช่ภรรยา หรือลูก ๆ แต่เป็นความทรงจำในชีวิตที่ผ่านมาต่างหาก
นั่นก็เท่ากับว่า ยิ่งมีความทรงจำดี ๆ และน่าจดจำมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีเรื่องให้นั่งเหม่อมอง และคิดถึงมันมากขึ้นเท่านั้น
แต่ในขณะเดียวกัน หากทั้งชีวิตเราไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้ผ่านไปวัน ๆ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะนั่งเหม่อมองและคิดถึงเรื่องอะไร
ความทรงจำที่เกิดขึ้นในชีวิตมันยังไม่จำเป็นกับเราในตอนนี้หรอก เพราะเรายังไม่ถึง วัยนั่งเหม่อ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะมานั่งทบทวน และคิดถึงความทรงจำที่ผ่านพ้นไป เพราะเมื่อแก่ชราไปเมื่อไหร่ เราจะมีเวลาอีกมากมายที่จะนั่งนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไป ช่วงเวลาที่ไม่มีวันย้อนกลับคืนมา
จงใช้ชีวิตของตัวเองให้คุ้มค่า เมื่อวัยนั่งเหม่อใกล้เข้ามา เราจะได้ไม่มานั่งเสียดาย ที่ไม่ได้ใช้ชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น