บทความดีๆ ถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับสิ่งไหน สิ่งนั้นก็จะหายไปเอง

 แนวคิดที่ว่าถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับสิ่งไหน สิ่งนั้นก็จะหายไปเอง เอาจริง ๆ มันสามารถใช้ได้หลายกรณีมาก ๆ เลยนะครับ 

เคยมีคนแนะนำว่า หากมีคนมานินทาคนอื่นให้เราฟัง และถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนที่ชอบนินทาคนอื่นเหมือนกับเขา เราคงจะรู้สึกอึดอัดน่าดู กับการต้องมายืนฟังการนินทาคนอื่นอยู่แบบนี้ 

แน่นอนหากบุคคลที่ 3 เห็นเข้า เราก็จะดูไม่ดีไปด้วย แต่ถ้าเราเลือกที่จะปฏิเสธการรับฟัง หรือทำสีหน้าท่าทางราวกับว่ากำลังไม่พอใจที่ต้องมานั่งฟังอะไรแบบนี้ เมื่อเวลาผ่านไป คนเหล่านั้นก็จะหายไปจากชีวิตเราเอง 

เพราะเราไม่ให้คุณค่ากับคนเหล่านั้น ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ คนประเภทนั้นก็จะเบื่อเรา และไม่อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเราในที่สุด 

หากเราไม่ชอบฟังการนินทา ก็เปรียบคำพูดเหล่านั้นได้ดังขยะ 

การนินทาก็เหมือนกับก้อนขยะ หากเรารับฟังก็เปรียบเสมือนเราเต็มใจที่จะให้เขาเทขยะจากตัวเขา มาใส่ตัวเรา แน่นอนครับว่าขยะคือสิ่งที่ส่งกลิ่นเหม็น เป็นสิ่งที่ทุกคนรังเกียจ 

ดังนั้นหากใครมาเห็นเข้าขณะที่เรากำลังมีขยะเต็มตัว ก็คงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลที่ 3 จะรู้สึกรังเกียจคุณไปด้วย 

วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ เดินหนีออกมาเลยครับ ฉันไม่มีเวลาที่จะมาเสียให้กับเรื่องไร้สาระพันนี้หรอก เพราะการเดินหนีคือภาษากายที่ชัดเจนที่สุดแล้วครับ ว่าเราไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสิ่งนั้น ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดให้ยุ่งยากเลย 

เพียงแค่ก้าวเดินออกไป คนเรานั้นก็จะรับรู้ได้ทันทีว่าเราไม่ให้คุณค่ากับเขา แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็จะเลิกยุ่งวุ่นวายกับคุณไปเอง 

แต่ในทางกลับกัน หากคุณสงสัยว่า ทำไมคนที่ชอบนินทาคนอื่นถึงมักจะวนเวียนอยู่รอบตัวคุณเสมอ ทำไมพวกเขาถึงชอบนินทาคนอื่นให้คุณฟังนัก

นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าตัวคุณเองก็ได้  ตัวคุณให้คุณค่ากับคนเหล่านั้น ตั้งใจฟังสิ่งเหล่านั้น คนเหล่านั้นจึงรู้สึกชอบที่จะอยู่ใกล้กับคุณ 

แนวคิดนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับคนขี้นินทานะครับ การที่เราไม่ให้คุณค่ากับสิ่งไหนสิ่งนั้นก็จะตาย 

ถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับการเก็บเงิน เราก็จะไม่มีเงิน 

ถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับคนรัก วันหนึ่งคนรักก็จะทิ้งเราไป 

ถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับสุขภาพของเรา วันหนึ่งสุขภาพของเราก็จะแย่ลง 

ดังนั้นการเลือกที่จะให้คุณค่ากับสิ่งใด และเลือกที่จะไม่ให้คุณค่ากับสิ่งใด เพื่อน ๆจะต้องตัดสินใจเลือกให้ดี 

ไปหากเราไม่สามารถเลือกได้ เคล็ดลับดีๆก็คือให้เพื่อนๆลองมองไปยังอนาคตต่อจากนี้อีกสัก 10 ปี แล้วลองดูว่ากิจกรรมเหล่านี้ที่เรากำลังทำมันจะส่งผลกับเราอย่างไร 

ถ้าเราให้เวลากับคนๆนี้และยืนฟังเขานินทาคนอื่นทั้งวัน อีก 10 ปีข้างหน้าเราจะเป็นยังไง 

ถ้าเราเอาเวลาไปวิ่งออกกำลังกายทุกวันอีก 10 ปี สุขภาพของเราจะเป็นยังไง 

ถ้าเราศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของการเงินและการลงทุนอย่างตั้งใจ อีก 10 ปีฐานะการเงินเราจะเป็นอย่างไร 

สุดท้ายหากเราปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆอีก 10 ปี ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร 

เพราะหากเราให้คุณค่ากับสิ่งที่ผิด มันก็จะตามติดชีวิตเราอยู่แบบนั้น ดังนั้นจงอย่าให้คุณค่ากับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ จงปล่อยให้มันตายไปจากชีวิตเราให้หมด 

แต่ถ้าเราทำได้สุดท้ายสิ่งที่จะเหลืออยู่ก็คือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข