บทสรุปฉบับแฮมแฮม.com

เลิกงามยามดีมาถึงแล้วครับ ในที่สุดวันนี้บล็อกของผม ก็เปลี่ยนเป็นดอทคอมจนได้ คิดมานานแล้วครับว่าอยากจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองกับเขาบ้าง แต่ก็ไม่อยากจะมานั่งเขียนเว็บให้วุ่นวาย 

ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็มีบล็อกอยู่บล็อกนึง แล้วทำไมเราถึงไม่จด Domain Name กับบล็อกเราซะเลยล่ะ 

เมื่อนึกขึ้นได้ก็ดำเนินการทันทีครับ โดนค่าจดไป 420 บาท ถ้าถามว่าแพงไหมมันก็ไม่แพงหรอก แต่คิดว่าจะถูกกว่านี้ซะอีก 

เอาล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาเปิดตัวเว็บบล็อก บทสรุปฉบับ แฮม แฮม อย่างเป็นทางการอีกครั้ง 

หลังจากที่ทำบล็อกแบบขอไปที อาทิตย์ละ 1 บทความ ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี อันที่จริงก็เข้ามาดูแค่ปีละครั้งถึง 2 ครั้ง เท่านั้นเอง 

เรียกได้ว่าที่ผ่านมาทำพอเป็นพิธีมาโดยตลอด ถ้าจะพูดว่าผมปล่อยปละละเลยก็คงจะพูดแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาผมก็เอาเวลาไปทุ่มเทให้กับ 

การทำบทสรุปฉบับแฮมแฮมพอดแคสต์ เสียหมด จนไม่มีเวลามานั่งสนใจบล็อกเลย 

และแล้วลูกสาวที่ยังไม่เกิดแต่ใกล้จะเกิดเต็มทีของผมก็เกิดบันดาลไอเดียที่แสนวิเศษมาให้กับผม

 เพราะผมรู้ว่าอนาคตอันใกล้ เมื่อลูกสาวของผมเกิดมา ผมคงไม่มีเวลามาทุ่มเทให้กับงานอดิเรกทั้ง 2 ของผมได้มากขนาดนี้อย่างแน่นอน

 ดังนั้นถ้าเกิดอยากจะทำสิ่งเหล่านี้ต่อไปผมต้องหาวิธีการทำสิ่งเหล่านี้โดยใช้เวลาให้น้อยลง

แล้วในที่สุดผมก็คิดวิธีการได้ นั่นคือ การผสมผสานระหว่างบทความ และพอดแคสต์ 

ซึ่งจะเกิดเป็นรายการพอดแคสต์แบบใหม่ ที่ผมจะเริ่มทำในปีหน้า 

นั่นคือการอ่านบทความของตัวเองให้ฟัง เพื่อตอบโจทย์กับคนที่ไม่ชอบการอ่าน แต่ชอบการฟังบทความสั้นๆ บทความดีๆ 

ซึ่งด้วยวิธีนี้มันจะทำให้ผมสามารถเขียนบทความไปด้วยทำพอดแคสต์ไปด้วยได้ ในเวลาเดียวกัน โดยที่ผมไม่ต้องใช้เวลาเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว 

นั่นจึงทำให้ผมเริ่มหันกลับมาสนใจบทความและบล็อกอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ดูเหมือนเพื่อนๆที่ทำบล็อก หรือทำเว็บไซต์ทุกคนจะมีโดเมนเนมกันหมด 

ดังนั้นผมก็ควรจะมีกับเขาบ้าง และแล้ววันที่ 14 กันยายน 2565 บทสรุปฉบับแฮมแฮม.com ก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยประการละฉะนี้ 

ก็ในเมื่อคิดจะทำแล้วก็คงจะต้องขยันหน่อย เอาเป็นว่าสโลแกนของเว็บบล็อกของผมคือ บทความดีๆ บทความสั้นๆ มีให้อ่านได้ทุกวัน ที่บทสรุปฉบับแฮมแฮม

ผมจะตั้งใจเขียนบทความนะครับ หวังว่าเพื่อน ๆ ที่ผ่านเข้ามาอ่าน จะรู้สึกดี ๆ กลับไป