บทความ อกหักกับไม่เคยมีแฟน แบบไหนแย่กว่ากัน
บทความที่แล้ว ผมได้พูดถึงเรื่องของการลืมความรักครั้งเก่าไปใช่ไหมครับ
นั่นจึงทำให้ผมเนี่ย นึกถึงบทความหนึ่งครับ ที่ตัวผมเคยเขียนไว้ใน blogdit ก็เป็นบทความที่เล่าถึงมุมมองความรักเหมือนกัน
แล้วผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คนที่ผ่านมาได้ฟัง
เนื้อหาก็ประมาณว่า
ในสมัยที่ผมยังเรียนอยู่นะครับ
ผมเนี่ย ได้นัดรวมตัวเพื่อนๆนะครับ ที่เรียนปริญญาโทด้วยกัน มานั่งกินขนมกันที่ในมหาลัยครับ
ต่างคนก็ต่างมีขนมติดไม้ติดมือกันมาคนละถุงสองถุง แล้วก็น้ำคนละแก้ว(ของใครของมัน)
จริงๆ ก็ไม่ใช่กิจกรรมพิเศษอะไรหรอกครับ การนั่งคุยเล่นกันในวันว่าง ๆ เนี่ย เป็นเรื่องที่พวกเราก็ทำกันบ่อย ๆ
แต่การสนทนาในวันนี้เนี่ย มันค่อนข้างแตกต่างออกไปจากทุก ๆ วัน เพราะหลังจากที่เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แซวกันไป แซวกันมา ในหลาย ๆ เรื่อง
ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง เปิดประเด็นดราม่าขึ้นมาเฉยเลยครับ
เนื่องจากพี่เขาเนี่ย เพิ่งจะเลิกกับแฟนมาหมาดๆ ครับ ก็คงจะอยากระบายละมั้ง
จริงๆ ผมยังไม่ทันจะฟังเรื่องราวเลยนะครับ
ผมก็พอจะเดาได้ครับ เพราะว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของการเลิกลากัน ของคนที่อายุประมาณ 30+แล้วเนี่ย
ส่วนมากแล้ว ก็เกี่ยวกับเรื่องของการนอกใจ ทั้งนั้นเลย
เพียงแต่เรื่องราวของพี่เขาเนี่ย อาจจะค่อนข้างฮาร์ดคอร์นิดนึงนะครับ
ตรงที่ พี่เขาเนี่ย จับได้คาหนังคาเขาเลยทีเดียว
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับ
เมื่อมีคนเปิดประเด็นเนี่ย ก็ย่อมมีคนสานต่อ เหล่าผู้หญิงที่นั่งจับกลุ่มกันห่าง ๆ
ก็เริ่มเข้ามารวมกลุ่มกัน แล้วก็เล่าถึงชีวิตรักที่ไม่สมหวังของตัวเองให้คนในกลุ่มฟัง
ก็เนื่องจากผมเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม ในตอนนั้นนะครับ ก็ทำตัวลำบากอยู่เหมือนกัน
เพราะดูเหมือนเพื่อนผู้หญิงส่วนใหญ่เนี่ย ก็จะโดนผู้ชายทำให้เสียใจกันมาทั้งนั้นเลย
ระหว่างที่กำลังนั่งฟังสาว ๆ เล่าเรื่องราวดราม่ากันอย่างตั้งใจเนี่ย
พวกเราก็เกิดสังเกตเห็นพี่คนหนึ่งครับ ที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ
ก็เลยถามพี่เขาว่า ไม่มีเรื่องดราม่าจะแชร์บ้างเหรอพี่ แล้วรู้อะไรไหมครับ พวกเราทุกคนเนี่ย ต่างตกใจกับคำตอบของพี่เขามากเลยครับ
เพราะพี่เขาบอกว่า ไม่รู้สิ
ตั้งแต่เกิดมานะยังไม่เคยมีแฟนเลย แล้วก็ยังไม่เคยมีใครเข้ามาจีบด้วย
ก็เลยไม่รู้จริง ๆ ว่าไอ้ความรู้สึกตอนถูกทิ้ง หรืออกหักเนี่ย มันเป็นยังไง
ตอนที่ผมได้ฟังคำตอบของพี่เขานะครับ
ผมค่อนข้างตกใจเลยทีเดียว เพราะในสายตาผมแล้วเนี่ย
ถึงที่เขาจะอายุค่อนข้างเยอะแล้วนะครับ แต่ว่า ก็เป็นคนที่หน้าตาดีคนนึงเลยทีเดียว
ก็เลยแปลกใจมากครับ ที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แถมไม่เคยมีใครจีบอีกด้วย
หลังจากที่พี่เขาพูดจบเนี่ย
ประเด็นใหม่ก็เกิดขึ้นในวงสนทนาทันทีครับ เริ่มมีคนสนใจขึ้นมาครับว่า ระหว่างคนที่มีแฟนแต่อกหัก
กับคนที่เกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลยแม้แต่คนเดียว อันไหนมันน่าเศร้ากว่ากัน
ถ้าเราคิดถึงในมุมของคนที่อกหักนะครับ
อย่างน้อยเขาก็ยังเคยมีแฟนครับ แล้วก็ยังเคยได้มีช่วงเวลาดี ๆ
อย่างน้อยก็ช่วงโปรโมชั่นล่ะครับ ได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความรักมาก่อน ถึงแม้การคิดถึงสิ่งนั้นในวันนี้ จะทำให้เราเสียใจก็ตาม
แต่ยังไงก็เปลี่ยนความจริงที่ว่า
เราเคยมีความรู้สึกดีๆ และมีความสุขในช่วงเวลาหนึ่งไม่ได้
ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็คือ
ถึงจะไม่เคยสัมผัสกับความรักมาก่อนเลยก็ตาม แต่ในขณะเดียวกัน
ก็ไม่ต้องทนเจ็บปวดและเสียใจกับความรักที่จบไป เหมือนกัน
ก็ถกเถียงกันพอหอมปากหอมคอแหละครับ
เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีทางที่จะมีคำตอบที่แน่ชัดหรอกครับ ชีวิตใครก็ชีวิตมัน
ใครพอใจในชีวิตมากกว่าคนนั้นก็มีความสุขมากกว่า
ถึงเราจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนนะครับ แต่ในวันนั้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมได้สังเกตเห็น และมันชัดเจนมาก ๆ จนอยากที่จะนำมาแชร์ให้ทุกคนได้รู้ นั่นก็คือ
ทั้งคนที่โดนทิ้งมา หรือคนที่ไม่เคยมีความรักเลย ตอนนี้พวกเรากำลังนั่งกินขนม
แล้วหัวเราะอย่างสนุกสนานกันอยู่ไม่ใช่หรอ
เสียงหัวเราะในวันนั้น มันดังราวกับว่า
ชีวิตยังมีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมาย
ยังมีสิ่งอื่น ที่มอบความสุขให้กับเรานอกจากคนรัก อยู่อีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่
พวกเรายังมีเพื่อน ยังมีอนาคต ยังมีอะไรที่อยากทำ แล้วทำไมเราถึงต้องไปจดจ่อ
ถึงความรัก ถึงสิ่งที่ขาด ถึงสิ่งที่ไม่มีด้วยล่ะ
มันแทบจะไม่มีเหตุผลเลยครับ ที่เรายอมทิ้งความสุขที่อยู่ตรงหน้าเพื่อหันไปมอง
ความทุกข์ที่อยู่ข้างหลัง
ถ้าการไม่มีความรักถือเป็นความทุกข์ของชีวิต
คุณผู้อ่านไม่คิดว่ามันไม่แฟร์กับความสุขที่เกิดจากความสัมพันธ์รูปแบบอื่นบ้างหรอครับ
ก็ฝากไว้ให้คิดนะครับ
สามารถฟังบทความดี ๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น