บทความ ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้เพียงลำพัง
ประเด็นที่อยากจะหยิบยกมาพูดคุยกันในวันนี้นะครับ
เกิดจากการที่ ผมเนี่ย ได้เข้าไปอ่านกระทู้ใน Pantip ของน้องคนหนึ่งครับ
เขาบอกว่าเขาเนี่ย ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ เพียงตัวคนเดียวครับ พ่อแม่เสียแล้ว
ญาติพี่น้องก็ไม่มี เพื่อนก็ไม่มี แฟนก็ไม่มี ทุกวันนี้ ไปทำงานแล้วก็กลับบ้านใช้ชีวิตตัวคนเดียว
ไม่มีสังคม คือเขาเหงามากครับ แล้วเขาก็อยากรู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ถ้าหากใครก็ตามที่กำลังประสบพบเจอกับปัญหาแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้คนนี้
อยากจะให้เปิดใจอ่านบทความนี้ให้จบ เชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
แต่ก่อนอื่นเนี่ย
ขอแก้ไขให้ถูกสักนิดนึงนะครับ จริง ๆ เราทุกคนเนี่ย ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพียงตัวคนเดียวนะครับ
มีคนใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้กับเราเนี่ยเยอะมากๆเลยครับ
เพียงแต่เราแค่ไม่รู้จักพวกเขาเท่านั้นเอง
นั่นก็หมายความว่า หากเราได้ทำความรู้จักกับพวกเขา
ได้พูดคุยกับพวกเขา เราก็จะไม่รู้สึกว่า เราอยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป
เอาจริง ๆ นะ ผมว่าถ้าอยู่ตัวคนเดียวแล้วเหงา ทางเลือกเดียวของคนเราก็คือ การทำความรู้จักใครสักคนนั่นเอง แล้วผมก็เชื่อด้วยว่า เจ้าของกระทู้ ก็รู้แหละว่าต้องทำแบบนั้น
เพียงแต่ว่า อาจจะไม่มีความกล้ามากพอ ที่จะลุกขึ้นมาทำแบบนั้น
หรืออาจจะไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไงหรือเปล่า
วันนี้ผมก็เลยจะมาบอก
ที่ละขั้นตอนเลยครับว่า จะต้องทำยังไง
เพื่อที่ว่าเราเนี่ย จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป
ข้อที่ 1 เปิดใจให้กว้างครับ
ผมเชื่อนะครับว่า ไม่ว่าจะไปถามนักพูด
นักเขียน นักสร้างแรงบันดาลใจคนไหน ก็คงต้องพูดประโยคนี้ครับ คุณต้องเริ่มจากการเปิดใจให้กว้างก่อน
อย่าปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่ง อย่ากลัวที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา
คือมันต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อนครับ
เราต้องมีทัศนคติที่ดีต่อการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นให้ได้ก่อน
คือระบบการศึกษาของเราเนี่ย จะถูกปลูกฝังให้คนที่อายุเท่ากันเท่านั้นถึงจะเป็นเพื่อนกันได้
อีกอย่างก็คือ ผู้ชายก็มักจะรวมกลุ่มกันเฉพาะผู้ชาย
ผู้หญิงก็มาจะรวมกลุ่มกันเฉพาะผู้หญิง
แต่ในโลกของความเป็นจริงเนี่ย
มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเลยครับ
เราสามารถมีเพื่อนที่อายุน้อยกว่า หรือมากกว่าก็ได้ครับ อย่าไปจำกัดคำว่าความสัมพันธ์ เพียงเพราะว่าอายุไม่เท่ากัน หรือเพียงเพราะว่าเรามีเพศที่ต่างกันเลยครับ
เพราะไม่มีใครบนโลกนี้ คิดแบบนั้นเลยสักคน
หากคุณไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว
คุณก็แค่ต้องเดินออกมาครับ
แน่นอนครับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะอ้าแขนต้อนรับคุณเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือในสังคมนะครับ
แต่เชื่อผมเถอะครับ ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่กำลังรอคอยการปรากฏตัวของคุณอยู่
หลักฐานก็คือ
กระทู้ในทำนองเดียวกับเจ้าของกระทู้ที่ผมหยิบยกมาเป็นเคสเนี่ย
ไม่ได้มีเพียงอันเดียวนะครับ แล้วก็มี comment ทำนองแบบว่า ชีวิตฉันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน อยู่เยอะมาก ๆ เลย
คือมันก็แน่นอนล่ะครับว่า ในสังคมเนี่ย มันก็จะมีคนที่ไม่อยากเปิดรับความสัมพันธ์ใหม่ ๆ เข้ามาอีกแล้ว
เพราะว่า เท่าที่มีเนี่ย ก็วุ่นวายจะแย่แล้ว
แต่คนที่กำลังรอให้ใครสักคน เข้ามาในชีวิตน่ะ มันก็มีอยู่เหมือนกัน
ดังนั้นจงเปิดใจให้กว้างครับ มองถึงข้อดีของการมีความสัมพันธ์ กับผู้คน ถ้าเจอคนที่ไม่ต้อนรับเราก็ช่างเขา
แต่ถ้าเจอคนที่อยากมีเราเมื่อไหร่ ความเหงาก็หายไปเมื่อนั้นเหมือนกัน
ข้อที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อม
หลายคนอาจจะใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวนานจนเกินไปครับ
จนเกิดเป็นความชินชา แล้วไม่รู้ว่าหากก้าวออกไปพบเจอกับสังคมเนี่ยจ ะต้องทำตัวยังไง
ดังนั้นเราก็ควรที่จะมีการเตรียมความพร้อม
ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจกันซักนิดนึงนะครับ
เพราะการเข้าสังคมมันคือการทำกิจกรรมร่วมกัน กับผู้อื่นครับ
คุณคงไม่อยากเป็นภาระให้กับเพื่อนใหม่ของคุณจริงไหม แล้วอีกอย่างนึงก็คือ อยากให้จำไว้ครับว่า
บนโลกใบนี้ ไม่มีใครที่จะทำอะไรถูกใจเราไปหมดซะทุกอย่างหรอกครับ บางสิ่งบางอย่าง เขาก็อาจจะทำผิดพลาดไปบ้าง
อาจจะมีคำพูดที่ เราไม่พอใจบ้าง ก็อยากจะให้มองว่ามันเป็นเรื่องของความไม่ Perfect ของคนนะครับ
บางอย่างถ้าไม่หนักหนาเกินไปเนี่ยก็ให้อภัยจะดีกว่าครับ
เชื่อเถอะครับขนาดคนที่เป็นพ่อแม่ลูกกันเนี่ย ก็ยังมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน
ความเห็นไม่ตรงกันอยู่บ่อย ๆ แล้วนับประสาอะไรกับเพื่อนใหม่ที่เราเพิ่งรู้จัก
ไม่มีทางที่ความคิดเห็นหรือ นิสัยมันจะตรงไปกันซะทุกอย่างหรอกครับ
หากที่ผ่านมาอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด
อยู่ต่อเพื่อเตรียมความพร้อมอีกซักหน่อย ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ
ผมคิดว่าก่อนที่เราจะลุกขึ้นไปทำความรู้จักใครสักคน อยากจะให้เราเนี่ย พยายามทำให้ตัวเราเป็นคนที่น่าคบหา
ขึ้นอีกสักนิด ก็น่าจะดีไม่น้อยเหมือนกัน
ข้อที่ 3 กล้าที่จะออกไป
สวัสดีครับ คุณชื่ออะไรหรอ…? ประโยคคำถามง่าย ๆ
ที่ใช้กันทั่วโลก สำหรับการทำความรู้จักใครบางคน
อาจจะไม่ต้องสุภาพขนาดผมก็ได้นะครับ แต่ไม่ว่าใครเนี่ย ก็เริ่มทำความรู้จักกันด้วยประโยคนี้ทั้งนั้นเลย ทุก ๆ
ความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาครับ ไม่มีใครพบหน้าเจอตากัน
พูดคุยกันไม่กี่ประโยคแล้วสนิทกัน เชื่อใจกันได้เลยหรอกครับ
ดังนั้นคุณจึงต้องกล้าที่จะก้าวออกไปทำความรู้จักคน ใช้เวลาร่วมกับคน แล้วเวลาจะนำพาคนที่รู้สึกเหมือนกับคุณ เข้ามาเองครับ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากไว้นะครับว่า
มิตรภาพใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ทุกวันครับ
อย่าลืมนะครับว่า ตั้งแต่เด็กเพื่อนทุกคนที่เรารู้จักที่โรงเรียน
ทุกคนเคยเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา
แต่ด้วยกิจกรรมบางอย่าง ทำให้เราต้องมาใช้เวลาร่วมกัน และคนที่มีความจริงใจต่อกัน
คอยช่วยเหลือกัน นานวันพวกเขาก็จะสนิทกัน และรักกันราวเป็นคนในครอบครัว
ผมอยากปิดท้ายด้วยประโยคนึงครับ
มีคนคนนึงเขาบอกไว้ว่า ถ้าเราเปิดบ้านไว้นะครับ อาจจะมีคนไม่ดีเนี่ย เข้ามาสัก 2 คน
แต่ถ้าเราปิดบ้านไว้นะครับ เพื่อนนับร้อยก็เข้าบ้านเราไม่ได้ เช่นกัน
ดังนั้นจงเปิดใจให้กว้าง
เตรียมตัวให้พร้อม และอย่ากลัวที่จะทำความรู้จัก
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น