บทความ เคล็ดลับการกินมันฝรั่งทอด 10 ถุงยังไง ให้ไม่อ้วน
เรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้นะครับ มันอาจจะไม่มีงานวิจัยรองรับเหมือนกับ ที่ผ่าน ๆ มา เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญในชีวิตของตัวผมเองครับ สิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังในวันนี้
คุณผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณเยอะ ๆ เลยนะครับ ว่าควรที่จะทำตามไหม เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดหรือสิ่งที่ถูก
แต่ผมจะขอบอกกับ คุณผู้อ่านแบบนี้ครับว่า
สิ่งที่ผมค้นพบจากความบังเอิญ มันจะสามารถทำให้เรา กินขนม 10 ถุง โดยที่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นครับแม้แต่ขีดเดียว
โอเคงั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้นะครับมันเริ่มตรงที่แม่ผม
ชอบซื้อขนมมาให้ผมที่ห้องครับ ซึ่งขนมที่แม่ซื้อให้ ก็อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย
แล้วก็จะมีขนมอยู่อย่างนึงครับ ที่แม่ซื้อให้บ่อยมาก แล้วมันก็อร่อยมาก ๆ ด้วยครับ
นั่นก็คือคุกกี้ครับ คือคุกกี้เจ้านี้ มันอร่อยมากก็จริงครับ
แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อ้วนมากเหมือนกัน
ซึ่งผมก็บอกแม่ผมครับว่า
ผมชอบกินก็จริง แต่อยากซื้อมาให้ได้รึเปล่า เพราะว่ามันอ้วน ก็
หลังจากที่ผมพูดไปแบบนั้นนะครับ อาทิตย์ต่อมา แม่ก็เอามาให้อีก 2 กระปุกเลยครับ ซึ่งแม่ก็ได้เอาคุกกี้ไปวางไว้ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในห้องของผมนะครับ
นั่นก็คือบนตู้เย็นครับ
ก็คือทุกครั้งที่ผมเดินไปกินน้ำ ผมก็จะเหลือบไปมองเห็น Cookie ครับ แล้วด้วยความตะกละของผมเองด้วย มันก็ทำให้อดใจไม่ไหวครับ
ก็หยิบมันเข้าปากสักชิ้นสองชิ้นอยู่ตลอดเลย
จนมีอยู่วันนึงครับ
อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยก็ว่าได้
คือผมไปกินหมูกระทะมาครับ คุณผู้อ่านเคยเป็นใช่ไหมครับตอนหิว เราก็ตักกันมาเยอะมากครับ แต่พออิ่มแล้ว ก็เกี่ยงกันกิน
ด้วยความที่ไม่อยากเสียค่าปรับครับ
ผมก็เลยต้องพยายามกินส่วนที่เหลือ ให้หมดครับ ทำให้คืนนั้น ผมอิ่มมาก ๆ เลย
พอกลับมาถึงบ้านแล้ว แน่นอนหมูกระทะมันน่าจะใส่ผงชูรสเยอะครับ
ผมก็หิวน้ำ ผมก็เลยเดินไปที่ตู้เย็นของผมเพื่อจะกินน้ำ
ผมว่า คุณผู้อ่านน่าจะเดากันได้แล้วใช่ไหมครับครับ
ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ใช่แล้วครับ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นคุกกี้ครับ
จะบอกว่าตอนนี้ผมแทบจะกลืนอะไรไม่ลงแล้วนะครับ เพราะว่าอิ่มมาก ๆ
แต่ว่าด้วยความเคยชินหรืออะไรก็ไม่รู้ครับ
มันทำให้ผม หยิบคุกกี้เข้าปาก 1 ชิ้นจนได้
ระหว่างที่กำลังเคี้ยวอยู่ ผมก็คิดครับว่าทำไมมันอร่อยแบบนี้นะทั้งกรุบกรอบ
ทั้งหวานทั้งมัน แต่อาจจะเป็นเพราะว่าผมอิ่มมากก็ได้ครับผมก็เลยเคี้ยวนานเป็นพิเศษ
ผมเคี้ยวนานจนคุกกี้กรอบ ๆ มันกลายเป็นก้อนแป้งเหนียว ๆ กลม ๆ อยู่ในปากของผม
ซึ่งมันยิ่งทำให้ผม ไม่อยากกลืนมันลงเข้าไปใหญ่เลยครับ
สุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจคายมันทิ้งลงถังขยะไปครับ เพราะว่ากลืนไม่ลงแล้วจริง ๆ
แล้วในวินาทีนั้น ผมก็เกิดปิ๊งอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ครับ
แต่ว่าตอนนั้นมันดึกแล้วก็เลยไม่ได้สนใจ ก็ไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วก็นอนครับ
ตื่นเช้ามา ผมก็ไปที่ตู้เย็นแล้วก็หันไปเห็นคุกกี้
แล้วก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นได้ครับ เหมือนผมจะค้นพบสิ่งที่สำคัญมาก ๆ บางอย่างขึ้นมาได้
ก็เลยตัดสินใจหยิบคุกกี้เข้าปากไปอีกครั้งนึง
แล้วก็ทบทวนสิ่งที่คิดออกเมื่อคืน ผมพยายามเลียนแบบตัวเองในเมื่อคืนนะครับ
ลองยืนท่าเดียวกับเมื่อคืน แล้วก็เคี้ยวคุกกี้อย่างช้า ๆ แล้วก็คายมันทิ้ง แล้วในที่สุดครับผมก็คิดออกจนได้
คุณผู้อ่านครับ คุณผู้อ่านเคยได้ยินคำว่า
อร่อยปากแต่ลำบากท้องไหมครับ
ก็คือการที่เราตามใจปากมากจนเกินไป
กินโดยไม่บันยะบันยังสุดท้ายการกินที่มากเกินไป มันก็เลยทำให้เราต้องลำบากภายหลัง
ถ้าเรากินหวานมาก ๆ กินเค็มมาก ๆ มันก็จะไปลำบากกระเพาะอาหาร ไตก็จะทำงานหนัก
หากเรากินของที่ไม่มีประโยชน์เข้าไปมาก ๆ มันก็จะส่งผลถึงสุขภาพของเราในภายภาคหน้า อาจจะมีโรคต่าง
ๆ ตามมาอย่างเช่นเบาหวานและความดัน
ก็จากทั้งหมดที่ผมกล่าวมา
คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงไม่ควรกินของบางอย่างถึงแม้มันจะอร่อยมากแค่ไหนก็ตาม
แต่วันนี้ครับ ผมดันค้นพบวิธีการที่เราสามารถกินอะไรก็ได้ มากแค่ไหนก็ได้ครับ เราสามารถอร่อยปากได้แต่ไม่ลำบากท้องเลยแม้แต่นิดเดียว
วิธีการที่ผมค้นพบด้วยความบังเอิญก็คือ
การไม่กลืนครับ หลายคนก็บอกอ้าวถ้าไม่กลืนแล้วจะเรียกว่าการกินได้ยังไง
คุณผู้อ่านใจเย็น ๆ แล้วฟังเหตุผลของผมก่อนนะครับ
คือข้อแรกเลย คุณผู้อ่านลองคิดตามผมดูสิครับว่า
ตอนที่เรารู้สึกว่าอาหารต่าง ๆ มันอร่อย เรารู้สึกตอนไหนครับ
เรารู้สึกตอนที่ฟันของเรากระทบกับอาหารและลิ้นของเราได้สัมผัสกับรสชาติถูกไหมครับ
แต่หลังจากกลืนลงไปแล้ว มันไม่เกี่ยวแล้วนะครับ มันมีแค่ความรู้สึกที่ว่าอิ่มหรือไม่อิ่มเท่านั้นเอง
ดังนั้นหลายคนอาจจะอยากสัมผัสกับรสชาติของอาหารอันแสนอร่อยให้มากกว่านี้ครับ
แต่ท้องของเรา รับอาหารไม่ไหวแล้ว ก็เลยทำให้เรา ตามใจปาก
กินมากกว่าที่ร่างกายต้องการ
แต่ถ้าใช้วิธีของผม เราสามารถลิ้มรสชาติอันแสนอร่อยของอาหารมากเท่าที่เราต้องการ
แถมมันยังไม่เกิดโทษจากการกินมากเกินไปอีกด้วยครับ
เหตุผลที่ 2 ที่ผมอยากจะบอกก็คือ คุณผู้อ่านคิดเหมือนผมไหมครับว่า อาหารบางอย่าง มันถูกสร้างขึ้นมา
ออกแบบขึ้นมา ให้มีรสชาติที่อร่อยเท่านั้น แต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเลยแม้แต่น้อย
มีแต่ทรานแฟท มีแต่ความหวาน มีแต่ความมัน มีแต่ความเค็ม พวกอาหารประเภทนี้เรากินเข้าไปนอกจากมันจะไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกายเรา
ๆ ถ้ากินมาก ๆ มันจะส่งผลเสียอีกด้วยนะครับ
แต่ข้อดีของอาหารเหล่านี้ก็คือมันอร่อยนั่นเองครับ
แล้ว คุณผู้อ่านคิดว่ามันจะเป็นยังไงล่ะครับ
ถ้าเรากินของที่มีประโยชน์เข้าไปให้เต็มท้อง
แล้วตบด้วยของไร้ประโยชน์อันแสนอร่อยโดยที่ไม่กลืน
เราก็จะสามารถพึงพอใจกับการกินอาหารได้อยากเต็มที่แถม สุขภาพก็ไม่เสียอีกด้วย
คุณผู้อ่านครับ ผมทดลองด้วยตัวเองมาแล้วครับ
โดยการซื้อมันฝรั่งทอดจากร้านสะดวกซื้อ ถุงใหญ่เลยนะครับ มา 1 ถุง แล้วก็กินหมดทั้งถุงด้วยตัวคนเดียวเลยครับ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือผมตื่นเช้ามา
น้ำหนักผมไม่ขึ้นเลยแม้แต่กิโลเดียว
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าผมจับมันยัดเข้าปากเคี้ยว ๆ สัมผัสถึงรสชาติให้เต็มที่
แล้วก็คายทิ้งครับ
ก็นี่แหละครับคือเทคนิคที่ผมค้นพบ
แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้เป็นวิธีที่ผมค้นพบด้วยความบังเอิญด้วยตัวเองนะครับ มันไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าวิธีนี้คือวิธีที่ดีหรือเปล่า
ซึ่งผมเคยดูรายการเจาะใจครับ
มีครั้งหนึ่งที่คุณพีทอีทแหลก ไปออกรายการ เขาก็ได้บอกว่าการที่เขาเป็นคนกินเก่งกินเยอะ
มันก็มีข้อเสียนะ เพราะว่าฟันของเขา ทุกซี่ไม่มีซี่ไหนเลยครับ ที่ไม่ได้ทำมา
การที่เขากินมากกว่าคนปกติทำให้ฟันของเขาต้องถูกใช้งานมากกว่าคนปกติด้วยเช่นกัน
ดังนั้นวิธีการเคี้ยวแต่ไม่กลืนของผม มันอาจจะทำให้เรากินของที่เราต้องการได้มากขึ้นโดยที่มันไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายก็จริง
แต่การที่เคี้ยวหรือกินมาก ๆ ฟันของเราก็อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าปกติก็เป็นได้ครับ
ก็ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันครับ
ว่ามันก็มีวิธีแบบนี้อยู่บนโลกเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารแต่พอดี กินของที่มีประโยชน์มันก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่แล้วครับ
เพียงแต่ถ้าใครก็ตามกำลังลดน้ำหนักอยู่แล้วคิดว่าฉันจะตบะแตกอยู่แล้ว อยากกินของอร่อย ๆ ก็อาจจะนำวิธีของผมไปใช้ดูก็ได้ครับ
เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณก็ได้กินสมใจ แต่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นเลยแม้แต่กิโลกรัมเดียว
เคี้ยวแต่ไม่กลื่นครับ
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น