บทความ แก่ช้าลงแน่แค่ปล่อยให้ท้องหิว
สำหรับวันนี้นะครับ มันถึงเวลาแล้วครับ ที่ผมจะเริ่มรีวิวหนังสือสักที เรียกตัวเองว่า บทสรุปฉบับแฮมแฮม แต่ยังไม่เคยสรุปอะไร ให้คุณผู้อ่านฟังเลย
เล่มแรก ผมขอรีวิวหนังสือบาง ๆ ก่อนก็แล้วกันนะครับ จะให้มือใหม่ มารีวิวหนังสือเล่มหนา ๆ เลย มันก็คงจะไม่ไหวใช่ไหมครับ
Ok ครับ
หนังสือที่ผมได้เลือกมารีวิวให้ฟังกัน ในวันนี้นะครับ ชื่อหนังสือว่า
แก่ช้าลงแน่แค่ปล่อยให้ท้องหิว
สำหรับคนไม่มีเวลาฟังนะครับ
เนื้อหาโดยสรุปก็คือ กินน้อยลงเท่าไหร่ ก็แก่ช้าลงเท่านั้น
OK ต่อจากนี้ผมจะเริ่มรีวิวหนังสือแล้วนะครับ
เป็นการทำรีวิวหนังสือครั้งแรก ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยนะครับ
เรามาเริ่มกันที่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กันก่อนดีกว่าครับ
ผู้เขียน ชื่อว่านายแพทย์โยชิโนริ นางุโมะ ครับ
ก็คือคนที่อยู่บนหน้าปกพอดแคสต์ ผมนั่นเอง
คุณฟังลองทายดูสิครับ
ว่าคุณหมอโยชิโนริ อายุเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านส่วนใหญ่ต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
เพราะเห็นคุณหมอหน้าเด็ก ๆ แบบนี้ อายุ 56 ปีแล้วนะครับ
จริง ๆ คุณหมอไม่ได้หน้าเด็กมาตั้งแต่เกิดนะครับ
ในหนังสือ คุณหมอได้แนบรูปภาพตอนที่คุณหมออายุ 38 ปีมาให้ดูด้วยครับ
บอกเลยครับว่าถ้าจะคิดว่าอายุ 60 ต้น ๆ ก็ไม่เกินไปเลยครับ
แล้วจากคนอายุ 38 ที่หน้าแก่ กลายเป็นคุณหมออายุ 56 ที่หน้าเด็กได้อย่างไร
เรามาฟังไปพร้อม ๆ กันนะครับ
จุดเริ่มต้นมันเริ่มที่
คุณปู่ของคุณหมอครับ ซึ่งก็เป็นคุณหมอเหมือนกัน
คือตระกูลนี้ เขาเป็นหมอกันมารุ่นสู่รุ่นเลยครับ คุณปู่ของคุณหมอ ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายตอนอายุ 52 ปีครับ
แล้วคุณพ่อของคุณหมอ ตอนอายุ 62 ปีก็ล้มป่วยลงด้วยโรคเดียวกันครับ
นั้นคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
ถึงจะยื้อชีวิตไว้ได้นะครับแต่คุณพ่อ ก็ต้องทุกข์ทรมานกับโรคนี้เป็นอย่างมาก
พอมาถึงรุ่นคุณหมอโยชิโนริ คุณหมอก็ตกใจสิครับ เพราะว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ อาจจะเป็นแบบคุณปู่กับคุณพ่อก็ได้
คุณหมอก็เลยลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง
อย่างจริงจังครับ ทดลองทำสารพัดวิธีเลย เพื่อสุขภาพที่ดี
ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ ครับ
8 ปีผ่านไป คุณหมอก็ได้ค้นพบเคล็ดลับสุดยอด ในการดูแลสุขภาพครับ นี่ผมไม่ได้เวอร์นะครับ
เพราะว่าหลังจากที่ คุณหมอได้นำวิธีนี้มาใช้
ผิวพรรณของคุณหมอก็เปล่งปลั่งขึ้นครับ
หน้าท้องก็แบนราบ น้ำหนักตัวลดลงเหลือ 60 กิโลกรัม อายุสมองเทียบเท่าคนที่อายุ 38 ปี อายุกระดูกเทียบเท่าคนที่อายุ 28 ปี อายุหลอดเลือดอยู่ที่ 26 ปี อวัยวะภายในของคุณหมอ ก็ย้อนสู่ความเยาว์วัยโดยสมบูรณ์ด้วยครับ
อ่า อยากรู้กันรึยังครับ
ว่าเคล็ดลับแก่ช้าของคุณหมอ คืออะไร
อันดับแรกเลยนะครับ
คุณผู้อ่าน ต้องปรับนาฬิกาชีวิตให้เป็นปกติให้ได้ก่อนครับ
นั่นก็คือการตื่นเช้าแล้วก็นอนไม่ดึกครับ ซึ่งในส่วนนี้
ผมขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
ประเด็นที่หนึ่งก็คือทำไมเราต้องนอนให้เร็ว
ไม่ควรนอนดึก
คุณผู้อ่านรู้จัก Growth Hormone กันไหมครับ เจ้าฮอโมนตัวนี้
เป็นอะไรที่ถูกพูดถึงกันมานานแสนนานแล้วนะครับ
มันจะถูกผลิตออกมาจากสมองของเรา ในช่วงที่เราหลับ ตอน ช่วง4ทุ่มถึงตี2 เท่านั้นครับ
ดังนั้นถ้าในช่วงนั้นคุณผู้อ่านยังไม่หลับก็อดนะครับ
ซึ่งสรรพคุณของเจ้า Growth Hormone มันครอบจักรวาลมากครับ
มันทำให้ผิวพรรณของเราเปล่งปลั่ง
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมัน แถมยังช่วยสมานแผลให้อีกด้วย
นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่า
ทำไมคนที่ป่วยหรือคนที่บาดเจ็บ จึงควรนอนพักเยอะ ๆ
จริง ๆ แล้วสรรพคุณของ Growth Hormone ที่ผมอ่านใน
Google มันเยอะกว่านี้มากเลยนะครับ
แต่เท่าที่คุณหมอหยิบยกมาบอก ผมว่ามันก็สุดยอดแล้วนะครับ เรียกได้ว่าช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 เป็นช่วงนาทีทองของชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
โอเคตอนนี้เราก็เข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมเราถึง
ไม่ควรที่จะนอนดึกก็เพราะว่าเราอยากได้Growth Hormone ยังไงล่ะ
ประเด็นที่สองก็คือแล้วทำไมเราต้องตื่นเช้า
ที่เราต้องตื่นเช้า ก็เพราะว่า
แสงอาทิตย์ยามเช้า จะทำให้สารแห่งความสุขที่ชื่อว่าเซโรโทนินถูกหลั่งออกมาจากร่างกายของเราครับ
อันนี้ไม่มีในหนังสือนะครับแต่ผมขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึง
ก็คือสารสื่อประสาทที่ทำให้มนุษย์เรามีความสุข มันมีอยู่ทั้งหมด 4 ตัวด้วยกันนะครับ ก็คือ
โดปามีน เซโรโทนิน เอ็นโดรฟิน
ออกซิโทซิน ครับ ซึ่งผมคิดว่าคุณผู้อ่านน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างใช่ไหมครับ
ตัวแรกนะครับ โดปามีน มันก็จะหลั่งออกมา เวลาเราทำอะไรสำเร็จนะครับ ยกตัวอย่างเช่นลดน้ำหนักสำเร็จ
เล่นเกมชนะ หรือทำข้อสอบได้เกรดที่ดี สารโดปามีน มันก็จะมอบรางวัลให้กับเรา
โดยการทำให้เรา รู้สึกมีความสุขครับ
ตัวที่ 2 คือเอ็นโดรฟิน อันนี้รู้อยู่แล้วใช่ไหมครับได้จากการออกกำลังกาย
ตัวที่ 3 คือออกซิโทซิน
อันนี้อาจจะเรียกว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพันก็ว่าได้ครับ
มันจะหลั่งออกมาตอนที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่เรารัก
หรือคนที่เรารู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งความสามารถของมัน จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขได้นั้นเองครับ
ตัวที่ 4 ครับตัวสุดท้ายก็คือ เซโรโทนิน ซึ่งสารแห่งความสุขตัวนี้ครับ
มันต้องตากแดด มันถึงจะผลิตออกมาครับ
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรที่จะตื่นเช้าครับ เพราะการได้รับแดดยามเช้ามันจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น
และอารมณ์ดีไปทั้งวัน
ซึ่งแน่นอนครับว่าหากเราไม่ได้อาบแสงอาทิตย์ยามเช้าและมีปริมาณเซโรโทนินที่ลดลง
เราก็จะเกิดอาการซึมเศร้า
ซึ่งอาจจะทำให้เราเกิดไม่อยากไปทำงานหรือไปโรงเรียนก็ได้นะครับ
เคล็ดลับแก่ช้าสุขภาพดี ขอบคุณหมอโยชิโนริ
อันดับแรกเลย ก็คงจะสรุปได้ว่าเราต้องฝึกนิสัยในการ
นอนเร็วแล้วตื่นเช้าให้ได้ก่อนครับ
ต่อมา คุณหมอก็บอกว่า
เราควรที่จะทิ้งความกังวลแล้วปลดปล่อยความเครียดออกไปให้หมดครับ
ซึ่งวิธีการขจัดความเครียดของคุณหมอ มีอยู่ 5 ขั้นตอนด้วยกันนะครับ
ขั้นตอนที่ 1 ก็คือ เราต้องขจัดสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดออกไปครับ
ก็คือพยายามอย่าอยู่ใกล้ ๆ ต้นเหตุที่ทำให้เราเครียด
หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงซะ
ขั้นตอนที่ 2 นะครับ ก็คือพยายามไม่คิดครับ
ซึ่งประโยคนี้ผมชอบมากครับ
คุณหมอบอกว่า ไม่ต้องพยายามคิดให้มากครับ เพราะต่อให้คิดมากไป มันก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้อยู่ดี
ขั้นตอนที่ 3 นะครับก็คือการลืม
อันนี้เราไม่ต้องทำเองนะครับ
คนเรามันบังคับตัวเองให้ลืมในสิ่งที่อยากลืมไม่ได้หรอกครับ
แต่การนอน จะช่วยเราครับ เพราะว่าหลังจากที่เราหลับไปแล้ว ในตอนเช้ามืดนะครับ ฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบลิมบิก ก็จะเข้ามาจัดระเบียบความทรงจำและทำให้เราลืมครับ
ขั้นตอนที่ 4 ครับก็คือการแสดงความรู้สึกชอบ
เวลาเราเจอสิ่งที่ทำให้เราเกิดความเครียดถ้าเราแกล้งส่งเสียงดีใจราวกับว่าเราชอบสิ่งนั้น
อมิดาล่าก็จะเปลี่ยนจากเกลียดสิ่งนั้นให้กลายเป็นชอบได้ ครับ ยกตัวอย่างเช่นลองพูดแบบนี้ดูสิครับ
วันนี้วันจันทรดีใจจังเลยได้ทำงานอีกแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 ขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล
ก็คือคุณหมอแนะนำให้ลองเข้ารับการตรวจแผนกจิตเวช
พร้อมทั้งขอใบรับรองแพทย์ แล้วนำไปยื่นให้คุณครูหรือเจ้านายที่บริษัทดูครับ
เราก็จะได้รับการดูแลตามกฎหมาย
อันนี้น่าจะกฎหมายญี่ปุ่นนะครับประเทศไทย ไม่รู้มีผลยังไงบ้าง
Ok ครับเนื้อหาต่อจากนี้ผมจะเริ่มเข้าเนื้อหาส่วนสำคัญของหนังสือแล้วนะครับ
นั่นก็คือเคล็ดลับการย้อนวัยให้กลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง
โดยวิธีการก็ง่ายแสนง่ายมากเลยครับ
คุณผู้อ่านก็เพียงแค่ ต้องปล่อยให้ท้องร้องจ๊อกจ๊อกเท่านั้นเองครับ ใช่ครับ
ง่่าย ๆ แบบนี้แหละ คือพอท้องร้อง ครับ มันจะมีฮอร์โมน 3 ตัวทำงานครับ ก็คือ 1 Growth Hormone 2 Sertuin genes แล้วก็ adiponectin ครับ
ซึ่งเจ้า Growth Hormone เราก็รู้สรรพคุณของมันดีอยู่แล้วนะครับ
ก็คงจะไม่ต้องพูดซ้ำ แต่ที่มันน่าตกใจคือมันถูกสร้างขึ้นมาตอนที่เราหิวด้วยนี่แหละ
ที่ผมเพิ่งรู้
ตัวที่ 2 นะครับชื่อว่า Sertuin genes ซึ่งเจ้าตัวนี้ มันจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายและมันจะทำงานเฉพาะตอนที่เราหิวเท่านั้นครับ
ส่วนตัวสุดท้าย adiponectin เจ้าตัวนี้นะครับ มันจะทำความสะอาดภายในหลอดเลือดให้กับเรา
และยังเป็นตัวชี้วัดความอ่อนเยาว์ของหลอดเลือดอีกด้วยครับ
แต่ว่ามันจะทำงานให้เฉพาะคนผอมนะครับคนอ้วน มันไม่ทำให้ เพราะว่าคนอ้วน มีไขมันในช่องท้องเยอะครับ
เจ้า adiponectin ก็เลยคิดว่าต่อให้ทำงานไป ก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี
มันก็เลยไม่ทำครับ
ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้วนะครับพวกเราทุกคนก็ควรที่จะเพลิดเพลินกับเสียงท้องร้อง
ให้ได้ครับ เพราะมันคือช่วงเวลาแห่งความสุขช่วงเวลาแห่งความโชคดี
เพราะว่าขณะที่เราหิว ข้างในร่างกายของเราก็กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นเพื่อทำให้เรากลับกลายเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้งนั่นเองครับ
นอกจากนี้ในหนังสือคุณหมอยังได้แนะนำเทคนิคต่าง ๆ นะครับ ที่ช่วยทำให้เราสุขภาพดีอีกมากมายเลย
แต่ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่องทั่วไปที่คุณผู้อ่านน่าจะรู้อยู่แล้วนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น การกินผลไม้ทั้งเปลือกกินปลาทั้งชิ้น
เพื่อที่จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน งดดื่มเหล้าสูบบุหรี่
และเลิกรับประทานของที่ไม่มีประโยชน์ด้วยครับ และที่สำคัญก็คือการออกกำลังกาย
แน่นอนว่าควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่ายืนหลังงออย่านั่งเอนหลัง อะไรพวกนี้อ่ะครับ
แต่ว่าก็จะมีเรื่องนึงที่น่าสนใจมากครับ
ก็คือเรื่องที่ว่า
เมื่อมีความรักเนี่ียอายุก็จะยืนยาวขึ้นด้วยครับ
แต่อันนี้เป็นงานวิจัยของศาสตราจารย์ เบอร์นาร์ด โคเฮน จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก
ในอเมริกานะครับ เขาได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของอัตราเสี่ยงที่ทำให้อายุสั้นลง
เขาได้ค้นพบครับว่า ความอ้วนและบุหรี่ทำให้อายุสั้นลง 6 ปี นอกจากนี้การเป็นโสดก็ส่งผลให้อายุสั้นลงเช่นกัน
โดยผู้ชายจะอายุสั้นลง 10 ปีส่วนผู้หญิงจะอายุสั้นลง 4 ปี ครัย
คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยเหมือนผมใช่ไหมครับว่าทำไมการไม่มีคู่ครองถึงทำให้เราอายุสั้นลงได้ล่ะ
เขาอธิบายแบบนี้ครับว่า
เดิมทีสิ่งมีชีวิตบนโลกถูกสร้างขึ้นมาให้สิ้นอายุขัยเมื่อหมดวัยเจริญพันธุ์ครับ แต่มนุษย์ เป็นข้อยกเว้น
ผมขออธิบายส่วนของผู้หญิงก่อนนะครับ
คือมนุษย์ผู้หญิง ครับโดยส่วนใหญ่แล้วต่อให้หมดวัยเจริญพันธุ์ก็ยังไม่หมดหน้าที่ที่ต้องทำครับ
เขาอธิบายว่า
คนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เรามักจะฝาก
ลูกของเราไว้กับคุณตาคุณยายที่หมดวัยเจริญพันธุ์แล้ว
ให้พวกท่านช่วยเลี้ยงลูกให้กับเรา
ดังนั้นสาเหตุที่ผู้หญิงมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายปีหลังพ้นวัยเจริญพันธุ์แล้ว ก็เพื่อดูแลลูกหลานนั่นเองครับ
ในขณะที่ผู้ชายเรานะครับ
สามารถสืบพันธุ์ได้จนกว่าจะเสียชีวิต ดังนั้นเพื่อไม่ให้หมดวัยเจริญพันธุ์
ผู้ชายจึงจำเป็นต้องมีคู่ครองหรือมีความรักอยู่เสมอครับ
ส่วนผู้ชายที่เป็นโสดและไม่มีความรักก็จะเหมือนกับว่าได้หมดวัยเจริญพันธุ์ไปแล้ว
นั่นเองครับ
เอาละครับหนังสือแก่ช้าลงแน่แค่ปล่อยให้ท้องหิว ก็ประมาณนี้แหละครับ
ในบทหลัง ๆ คุณหมอก็จะแนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ให้เราลองทำตามกันด้วยนะครับ
แต่อย่างไรก็ตามจุดประสงค์หลักของหนังสือเล่มนี้ก็คือ เขาอยากจะบอกว่า การที่เราปล่อยให้ท้องเราหิว มันส่งผลดีต่อชีวิตเรามากนั่นเองครับ
ก็สุดท้ายนี้
อย่างที่ได้บอกไว้ข้างต้นนะครับว่า นี่คือการทำรีวิวหนังสือครั้งแรก
ดังนั้นถ้าพูดอะไรผิดพลาดหรือตกหล่นไปบ้างก็ต้องขออภัยไว้ด้วยครับ
อย่าลืมนะครับ
แก่ช้าลงแน่แค่ปล่อยให้ท้องหิว
สามารถฟังบทความดี ๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น