บทความ คำถามของชีวิต ไม่ได้มีคำตอบเดียว
ผมได้อ่านบทความหนึ่งครับในแฟนเพจของคุณหนุ่มเมืองจันท์
ซึ่งเขา ได้เอาเนื้อหามาจากหนังสือที่ชื่อว่าวิถี
แมนดาริน ครับ โดยในหนังสือ เขาได้พูดถึง Richard Stingle ที่ไปสัมภาษณ์ Mandela ผู้นำแอฟริกาใต้ผู้ยิ่งใหญ่ครับ
Mandela
ก็เลยเล่านิทานพื้นบ้านเรื่องหนึ่งให้ฟังครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งครับ
เดินทางออกจากบ้านเกิด เพื่อไปตามหาผู้หญิงที่เพียบพร้อม
เพื่อมาเป็นภรรยาของตัวเอง เขาก็ได้เดินทางไปทั่วเลยครับ เพื่อตามหาผู้หญิงคนนั้น
แต่ไม่ว่าจะหายังไง ก็หาไม่เจอสักทีนะครับ สุดท้ายเขาก็ได้กลับมาที่บ้านเกิดของเขา
แล้วเขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งครับ ซึ่งเธอคนนี้บอกได้คำเดียวว่าใช่เลย นี่แหละแม่ของลูก
แต่ที่มันพีคมาก็คือ หญิงสาวที่เขาตกหลุมรักคนนี้นะครับ
เป็นคนที่เขา คุ้นเคยมานานแล้วครับ
เพราะว่าบ้านของเธอ อยู่ห่างกับเขาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
ซึ่งนิทานก็จบลงแค่นี้ครับ
คือถ้าเกิดมีคนมาเล่านิทานเรื่องนี้ให้ผมฟังนะครับ
ผมก็จะตีความว่า อ๋อจริง ๆ แล้ว ไม่ต้องออกไปตามหาที่ไหนไกลหรอกบางครั้งคนที่ใช่อาจจะอยู่ใกล้ตัวเราแค่นิดเดียวก็ได้
แต่ว่าหลังจากคนสัมภาษณ์ที่ชื่อว่า Richard Stingle ฟังนิทานเรื่องนี้จบครับ เขากลับตีความได้ 2 แบบ แบบแรก เขาก็ตีความคล้าย ๆ ผมนะครับ เขาบอกว่า คุณไม่ต้องออกไปตามหาใครให้ไกลแสนไกลหรอกเพราะคนที่ใช่มันอยู่ตรงหน้าของคุณ
แล้ว
ส่วนการตีความแบบที่ 2 เขาตีความได้ว่า
บางทีคุณต้องมีประสบการณ์และความรู้อันกว้างขวางเสียก่อน
เพื่อที่จะสามารถรับรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และคุ้นเคยกับเรามากที่สุด
ซึ่งการตีความแบบที่ 2 ทำให้ผมตกใจมากครับ
เพราะมันตีความแบบนั้นก็ได้จริง ๆ ซะด้วย
คุณผู้อ่านก็ลองคิดดูสิครับว่าถ้าในนิทาน
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ออกเดินทางตามหาความรักไปทั่ว แต่เขากลับเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด
เขาอาจจะสนิทสนมกับหญิงสาวคนนั้นแล้วกลายเป็นเพื่อนที่ดีกันเพราะว่า
คบหากันมาตั้งแต่เด็กก็ได้ครับ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น
ความรักก็จะไม่ก่อเกิด
แต่เพราะว่าเขาออกไปเดินทางตามหาความรัก
มันทำให้เขา ได้เรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับความรัก
ได้พบกับประสบการณ์มากมายมันถึงทำให้เขารู้ว่าจริง ๆ แล้วคนที่ใช่อยู่ใกล้ตัวเขาเพียงแค่นิดเดียว
ซึ่งนิทานเรื่องนี้ มันก็ทำให้ผมนึกถึงนิทานอีกเรื่องหนึ่งครับที่ผมเคยได้ฟังมา
มันเป็นเรื่องของนักบินอวกาศครับที่กำลังประสบปัญหา เพราะว่าบนอวกาศ ปากกามันเขียนไม่ติดครับ
แรงโน้มถ่วงมันทำให้หมึกย้อนกลับ จนเขียนหนังสือไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์ก็เลยพยายามคิดค้นครับหาทางให้ปากกา
สามารถเขียนได้แม้จะอยู่ในอวกาศ ก็พยายามคิดค้นกันนานมากครับ แต่ก็ไม่สำเร็จ
แล้ววันหนึ่งนักบินอวกาศจะได้กลับไปที่บ้านของเขาครับ
แล้วเขาก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้แม่เขาฟัง
แม่เขาก็เลยพูดกับเขาว่า
ทำไมลูกไม่ใช้ดินสอแทนล่ะ เออเนอะดินสอก็เขียนแทนปากกาได้
ซึ่งผมก็คิดนะครับว่า บางครั้ง เราก็มองออกไปไกลแสนไกลครับ
จนลืมมองสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เผลอ ๆ คำตอบของคำถามอาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ และอยู่ใกล้
ๆ ตัวเรามากกว่าที่เราคิดก็ได้ครับ
เหมือนกับชายหนุ่มที่ตามหารักแท้ไปทั่วแต่สุดท้ายกลับอยู่ข้างบ้านตัวเอง
ก็หลังจากที่คุณ Richard Stingle ตีความออกมาได้ 2 แบบนะครับก็เลยถามกับคุณ Mandela ผู้นำแอฟริกาใต้ ไปครับว่า สรุปนิทานเรื่องนี้
ตีความแบบไหนถึงจะถุกครับ
คุณMandelaก็ได้ตอบครับว่า
มันตีความได้หลายอย่าง และอาจจะถูกทั้ง 2 อย่างที่คุณว่ามาก็ได้
ซึ่ง คุณหนุ่มเมืองจันท์
ก็ได้อธิบายบทสนทนานี้ให้ฟังแบบนี้ครับว่า Mandela เขาผ่านโลกมานานครับ
ในสังคมที่หลากหลายและเต็มไปด้วยความขัดแย้งของแอฟริกา ทำให้ความคิดที่ตกผลึกของเขา บอกว่า โลกนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเดียว
ทุกคนสามารถมีคำตอบของตัวเอง
ถึงคำถามในห้องสอบมักจะมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงแค่คำตอบเดียว
แต่คำถามของชีวิต 1 คำถาม อาจมีคำตอบที่ถูกต้องมากกว่า 1 ก็ได้ ครับ
พอฟังการตีความนี้แล้ว
มันก็ทำให้ผมคิดถึงคลิปวีดีโอคลิปหนึ่งครับ ที่ผมเคยทำไว้สมัยก่อน
ตั้งแต่ตอนทำรายการ แฮม Channel เลยครับ คือผมได้ถามไปครับว่า
ถ้ามีรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็ว แล้วมีผู้บริสุทธิ์ถูกผูกติดไว้กับรางรถไฟ 5 คน แล้วอีกรางหนึ่ง มีผู้บริสุทธิ์ผูกติดไว้ 2 คนเช่นกัน
แล้วคุณ ดันไปยืนอยู่ที่สวิตซ์สับรางครัย
ถ้าคุณไม่ทำอะไรยืนดูเฉย ๆ ผู้บริสุทธิ์ 5 คนก็จะตาย แต่ถ้าคุณสับรางรถไฟผู้บริสุทธิ์
2 คนก็จะตาย คุณจะเลือกทางไหน
คือตอนนั้นบอกเลยครับว่าผมพยายามบีบให้
คุณผู้อ่านเลือกทางใดทางหนึ่ง
คือในคลิปนั้นผมก็ได้พูดถึงเรื่องของการตัดสินใจไปนะครับ
แต่ว่าที่มันพีคมากก็คือ หลังจากที่คลิปนั้นถูกปล่อยออกไปนะครับ
ได้มีพี่ ๆ น้อง ๆ เข้ามา ตอบคําถาม อย่างมากมายและหลากหลายมากครับ ซึ่งบางคำตอบ มันก็เป็นอะไรที่ผมนึกไม่ถึงเลยว่ามันจะมีทางเลือกแบบนี้อยู่ด้วย
ซึ่งผมก็คิดว่าหลาย ๆ ทางเลือกที่พี่
ๆ น้อง ๆ ได้เสนอมา มันก็เป็นทางเลือกที่ไม่ผิดเลยครับ
นี่ก็เป็นสิ่งที่การันตีได้ดีนะครับว่า หนึ่งคำถาม มันไม่จำเป็นต้องมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงแค่
1 คำตอบก็ได้ครับ เพราะหนึ่งคำถามของผม คุณผู้อ่านในตอนนั้นก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
เราสามารถคิดนอกกรอบได้ และยังสามารถสร้างทางเลือกได้อย่างมากมายไม่รู้จบเลย
ดังนั้นถ้าวันนี้ คุณผู้อ่านกำลังประสบปัญหานะครับ
กำลังสับสนว่าทางไหนกันแน่ถึงจะเป็นทางที่ดีที่สุด สำหรับชีวิตของเรา
ก็อยากให้รู้ไว้ครับว่า คำตอบที่ถูกอาจจะมีมากกว่า 1 คำตอบก็ได้ครับ
ดังนั้นจงมองออกไปให้กว้างที่สุด แล้วกลับมากวาดสายตามองสิ่งที่ใกล้ที่สุด แล้ว
คุณผู้อ่านก็จะพบว่าคำถามของชีวิต ไม่ได้มีแค่คำตอบเดียว
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น