บทความ วิธีฝึกฝนของคนฉลาด

 


ถ้าเป็นเวลาปกตินะครับในช่วงนี้ของทุกปี  ก็จะเป็นช่วงที่ คุณผู้อ่านที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ ก็กำลังสอบปลายภาคกันอยู่ใช่ไหมครับ  

 

ซึ่งจากประสบการณ์ของผมแล้วนะครับ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน  ก็จะมีคนสองคน เดินยิ้มออกมาจากห้องสอบอยู่เสมอครับ คนแรกก็คือคนที่สบายใจครับ สอบเสร็จสักที คนที่สองก็คือคนที่ปลงตกครับ ปล่อยวางแระ ยอมรับชะตากรรม อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด 

 

อาจารย์คุมห้องสอบหลายคน  ก็อาจจะแยกไม่ออกนะครับว่า

คนไหนยิ้มเพราะว่าทำข้อสอบได้ คนไหนยิ้มเพราะตอบไม่ได้เลย 

 

จริง ๆ  ผมมีเคล็ดลับเล็ก ๆ นะครับ ในการมองว่าใครน่าจะทำข้อสอบได้อยู่ นั่นก็คือ ใครก็ตามที่นั่งอ่านหนังสือชิว ๆ หน้าห้องสอบนะครับ ส่วนใหญ่ทำข้อสอบได้ครับ ส่วนใครที่ท่าทางมุ่งมั่นแล้วก็ขยันอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้นหน้าห้องสอบ  ก็มักจะทำข้อสอบไม่ค่อยได้หรอกครับ 

เพราะว่าคนที่ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด  ก็คงไม่ต้องมานั่งซีเรียสหรือว่าเครียดอยู่หน้าห้องสอบ จริงไหมครับ 

 

แต่ไม่ว่ารอยยิ้มของ คุณผู้อ่านจะแฝงอะไรไว้ก็ตาม

สิ่งที่กำลังรอพวกเราอยู่ ต่อจากนี้ก็คือ การปิดเทอมหน้าร้อนอันแสนยาวนานครับ ซึ่งถ้าจะถามน้อง ๆ นักเรียนว่า ปิดเทอมนี้มีแผนจะทำอะไรบ้าง ก็คงจะได้คำตอบที่ ค่อนข้างหลากหลายมากแน่ ๆ  

ถ้าจะให้ผมเดานะครับ  ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ น่าจะมีแนวคิดหลัก ๆ อยู่ไม่เกิน 2 แนวคิดอย่างแน่นอนครับ

แนวคิดที่ 1  ก็คือปิดเทอมสักที จะนอนพักผ่อนให้เต็มที่เลย จะไปเที่ยวให้สนุก จะเล่นเกมให้สะใจ จะใช้เวลาอย่างมีความสุขไปกับการนอนขี้เกียจ กลิ้งไปแล้วก็กลิ้งมา 

 

สวนแนวคิดที่ 2 นะครับ ปิดเทอมนี้ มันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียที่ ที่ผ่านมา เรียนตามเพื่อนไม่เคยทันเลย ต้องเอาเวลานี้แหละ มาพัฒนา เปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนใหม่ ตั้งใจอ่านหนังสือทบทวนความรู้เก่า ๆ จนกว่าจะเข้าใจ 

หรือบางคน  อาจจะโดนปฏิเสธในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ช่วงปิดเทอมนี้แหละ ได้เวลาฟิตหุ่น มาร์คหน้า เปิดเทอมใหม่เมื่อไหร่ เพื่อน ๆ จะต้องตกตะลึงกับตัวเราคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม 



 คุณผู้อ่านครับ ถ้า คุณผู้อ่านคนไหน กำลังมีแนวคิด ในแบบที่ 2 อยู่

วันนี้ผมก็มีเทคนิคในการฝึกฝน ที่ คุณผู้อ่านหลายท่านอาจจะคาดไม่ถึงมาเล่าให้ฟังครับ 

 

เป็นแนวคิดที่ผมอ่านเจอในหนังสือที่ชื่อว่า  The Little Book of Talent ของแดนเนี้ยว โคเลวครับ

 

ลองคิดตามผมดูสิครับ ถ้า คุณผู้อ่าน อยากจะ ฝึกฝนทักษะใดทักษะหนึ่ง  คุณผู้อ่านจะเริ่มจากอะไรครับ ทฤษฎี หรือปฏิบัติ ผมเองก็คิดว่าเราควรจะลงมือทำ ไม่สิ่งใดก็สิ่งหนึ่งจากสองสิ่งนั้นเหมือนกัน

 

แต่รู้ไหมครับว่ายังมีวิธีการฝึกฝนอีกรูปแบบหนึ่งที่เราอาจจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ที่สำคัญก็คือมันใช้ได้ผลมากซะด้วย

 

ในหนังสือ เขาได้เล่าถึง 

หน่วยรบพิเศษ Green beret ที่ 5 ครับ พวกเขา  เริ่มต้นการฝึกอบรมภาวะผู้นำ โดยการให้นายทหาร  ไปสังเกตการณ์ผู้บริหารของบริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริก  เป็นเวลาหลายสัปดาห์ครับ โดยไม่มีหน้าที่อื่นให้ทำเลย ให้เฝ้ามองแต่เพียงอย่างเดียว

คือวัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรครับ แอบส่องผู้บริหารคนนั้นอย่่างเดี่ยวเลย

 

เมื่อทหารกลุ่มนี้กลับมาที่ฐานทัพนะครับ ผู้บังคับบัญชาก็ตกใจครับเพราะว่า สังเกตเห็นว่าทักษะการสื่อสารและภาวะผู้นำของพวกเขา  สูงขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว 

 

ทั้ง ๆ ที่ ทหารเหล่านั้นนะครับก็ ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติมาเลยแม้แต่น้อย พวกเขา  เพียงแค่เฝ้ามองคนที่มีภาวะผู้นำเท่านั้น พวกเขาก็สามารถซึมซับเข้าไปและเริ่มที่จะมีภาวะผู้นำตามแล้ว

 

ในหนังสือเขาได้อธิบายไว้ครับว่า การจับจ้องหรือการจ้องมองคนที่เราอยากจะเป็น คือแหล่งพลังงานชั้นดีของสมองครับ การเชื่อมโยงเล็ก   น้อย   จะเพิ่มพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับเราครับ ยกตัวอย่างเช่น คนที่รู้ตัวว่าเกิดวันเดือนปีเดียวกับนักคณิตศาสตร์ชื่อดัง ก็จะมีแนวโน้มที่จะชอบวิชาคณิตศาสตร์มากกว่าคนอื่นด้วยครับ 

 

ดังนั้น ก็ง่าย ๆ ครับ ถ้าอยากจะเก่งเหมือนใคร  ก็ต้องจับจ้องคน ๆ นั้นเอาไว้ให้ดี 

 

คือแนวคิดนี้สำหรับคนไทยเรามันก็จะค่อนข้างเชื่อยากใช่ไหมครับ มันจะเป็นไปได้ยังไง แค่มานั่งมองคนอื่นแล้วเราก็จะเก่งเหมือนคนอื่น แบบนี้ก็ไม่ต้องพยายามกันแล้วสิ จริง ๆ การจ้องมองในที่นี้ครับหมายถึงการจ้องมองแบบจริงจังเลยนะครับ แบบเฝ้ามองโดยไม่กระพริบตา เฝ้ามองด้วยความสนใจราวกับทารกที่กำลังเรียนรู้ภาษาพูดที่ไม่เข้าใจ 

 

ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าใครเป็นนักกีฬานะครับ ก็จะพบว่าวิธีการฝึกฝนแบบนี้  มีมานานมากแล้วนะครับ การนั่งดูวีดีโอการแข่งขันของคู่แข่ง 

การฝึกเต้นโดยการนั่งดูคนอื่นเต้นเป็นเวลานาน ๆ  หรือการนั่งฟังคนอื่นร้องเพลง ไม่ว่า คุณผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่การเฝ้ามองก็เป็นหนึ่งในวิธีการฝึกฝนที่คนเก่งเขาทำกันครับ 


นี่คือสุดยอดของการฝึกฝนที่คนเก่งเท่านั้นที่ทำ และที่สำคัญผมได้นำมาเล่าให้ คุณผู้อ่านฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ 

 

จงใช้เวลาในช่วงปิดเทอมใหญ่ให้คุ้มค่า เมื่อเปิดเทอมใหม่ใกล้เข้ามา  คุณผู้อ่านจะได้ไม่ต้องกลับมานั่งเสียดาย 



 สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ

จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม  พอดแคสต์

ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ คนสวยก็มีความทุกข์ในแบบของคนสวยเหมือนกัน

บทความ เกมให้คะแนนสาวสวย

บทความ สระว่ายน้ำของคนโง่