บทความ คำสอนของบาร์เทนเดอร์
โดยเรื่องราว
เกิดขึ้นที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งครับ มีชายหนุ่ม 2 คนนะครับ
กำลังนั่งดื่มเหล้ากันอย่างกลัดกลุ้ม ท่าทีของพวกเขาทั้งสอง ดูจะเบื่อหน่ายกับชีวิตเอามาก ๆ เลย
พอใกล้จะถึงเวลาปิดร้านนะครับ
เมื่อแขกเริ่มทยอยกลับกันจนใกล้จะหมดแล้ว ชายหนุ่มคนแรก ก็
เปิดฉากระบายให้บาร์เทนเดอร์ฟัง เกี่ยวกับชีวิตของเขาในทันที
เขาเล่าให้บาร์เทนเดอร์ฟังครับว่า เขา
เป็นคนที่ Popular มากในหมู่สาว ๆ มีสาว ๆ มากมายคอยห้อมล้อมเขาอยู่ตลอดเวลา
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาได้คบกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
และทุกคนล้วนเป็นสาวสวย ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต่างหมายปอง
บาทันเด้อก็เลยถามไปครับว่า
อ้าวถ้าคุณฮอทซะขนาดนั้นแล้วทำไมคืนนี้คุณถึงมานั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะ
ชายหนุ่มก็เลยตอบไปครับว่า
เพราะว่าผมเบื่อไง คือชายหนุ่มเล่าให้ฟังต่อครับว่า มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตเขาเยอะแยะก็จริง
ซึ่งตอนแรก เขาก็สนุกกับเรื่องนี้อยู่หรอก แต่พออายุมากขึ้น เขากลับพบว่า ผู้หญิงเหล่านั้นเพียงแค่เข้ามาแล้วก็ผ่านไปครับ
ไม่เคยมีใครหยุดอยู่ที่เขาสักคน จนตอนนี้ อายุปาไป 40 กว่าแล้ว เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำครับว่า
ความรักมันเป็นยังไง
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งนะครับที่นั่งฟังอยู่ข้าง
ๆ ก็เลยพูดขึ้นมาบ้างครับว่า
ชีวิตคุณ น่าอิจฉาจริง ๆ นะ
ส่วนชีวิตผม ผมได้พบกับภรรยาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
แล้วผมรู้ทันทีว่าเธอคือรักแท้ของผม เราตัดสินใจคบกันเป็นแฟนตั้งแต่ตอนนั้น
และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเรื่อยมาจนถึงวันนี้
เมื่อบาร์เทนเดอร์ ได้ยินก็งงสิครับ
ก็ฟังดูดีนะครับแล้วมันมีปัญหาตรงไหนหรอ
ชายหนุ่มคนที่สองก็เลยบอกครับว่า
ก็เพราะว่าผมคบกับเธอคนเดียวนี่แหละ
ผมก็เลยไม่เคยได้ใช้ชีวิตแบบพ่อหนุ่มคาสโนว่าคนนั้นเลย ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนอื่นเลย ไม่เคยจีบใคร ไม่เคยนอกใจ พูดง่าย
ๆ คือ ผมไม่รู้เลยว่ารสชาติชีวิตอย่างที่เขาพูดมัน รู้สึกยังไง
ชายหนุ่มคนแรกก็สวนกลับมาครับว่า
ผมต่างหากที่อยากเป็นเหมือนคุณ ผมอยากมีใครสักคนที่รักผม และอยู่กับผมได้นาน ๆ แบบนั้นบ้างจัง
บาร์เทนเดอร์ก็เลยสรุปให้ฟังนะครับ
ชายหนุ่มคนแรก ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่อย่างที่ผู้ชายทุกคนวาดฝันไว้
แต่ในตอนสุดท้ายเขากลับไม่พบเจอใคร ที่รักเขาเลย
ส่วนชายหนุ่มคนที่ 2 ได้เจอกับรักแท้เร็วเกินไปหน่อย
ทำให้เขาเลยไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ผู้ชาย คิดอยากจะใช้
สรุปก็คือพวกคุณทั้งสอง
อยากจะสลับกันใช้ชีวิตใช่หรือเปล่า
ชายหนุ่มทั้งสองคนก็เลยตอบว่าใช่แล้ว
ผมอยากเป็นแบบเขา
บาร์เทนเดอร์ก็เลยทำหน้างงครับก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า
ผมไม่เข้าใจครับว่า คุณจะอยากเป็นเหมือนกับอีกคนหนึ่งทำไม
เพราะสุดท้ายชีวิตของคุณทั้งคู่ก็มาลงเอยที่ร้านเหล้าเหมือนกันอยู่ดี
พวกคุณกำลังสนใจในสิ่งที่คุณขาด
โดยไม่ได้หันไปมองในสิ่งที่คุณมี คุณไม่เห็นหรอครับ ว่าชีวิตของคุณนั้นมีสิ่งดี ๆ ที่คนอื่นก็อยากมีเหมือนกับคุณ
และถ้าหากคุณยังมีความคิดเช่นนี้
ต่อให้คุณมีชีวิตที่ดีราวกับราชา สุดท้ายคุณจะลงเอยด้วยการมานั่งดื่มเหล้า
และซึมเศร้าต่อหน้าผมเช่นเดิม
นิทานเรื่องนี้ผมไม่ได้เขียนสรุปไว้นะครับ
ผมก็เขียนจบเท่านี้เลยแต่ความจริงแล้วผมอยากจะสื่อให้ฟังว่า ชีวิตของเราทุกคนมันไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกครับ
ทุกคนต่างมีเรื่องที่สมหวังและผิดหวัง
การที่เราไปนั่งมองชีวิตของชาวบ้านแล้วมานั่งเปรียบเทียบกับชีวิตของตัวเองว่าเขาดีกว่าเรายังไงบ้าง
มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ เพราะเรากำลังมองในสิ่งที่เราไม่มี
โดยที่เรามองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี เลย
คือถ้าเราไม่พอใจในสิ่งที่เรามีนะครับ
เราก็จะรู้สึกเป็นทุกข์เหมือนกับพ่อหนุ่มทั้งสองคนนั้นตลอดไปครับ
ก็เหมือนกับที่บาเทนเด้อบอกครับ ต่อให้เป็นราชาที่มีครบทุกอย่างที่ต้องการ
ถ้าพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องมานั่งเศร้าอยู่ในร้านเหล้าแบบนี้เหมือนเดิม
คุณผู้อ่านลองคิดดูสิครับ
ในเช้าวันจันทร์ระหว่างที่ คุณผู้อ่านกำลังบ่นว่าเบื่อที่ต้องลุกขึ้นไปทำงานอีกแล้ว
มีคนอีกมากแค่ไหนครับที่อยากเข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งของ คุณผู้อ่าน
แต่พวกเขาไม่มีโอกาส
หลักฐานก็คือ
ทุกครั้งที่มีการเปิดรับสมัครงาน จะมีคนมากมายที่ต่อคิว นั่งรอสัมภาษณ์ ผมเชื่อว่า
คุณผู้อ่านทุกคนต้องเคยอยู่ในจุดนั้น เหมือนกัน
คือบางทีสิ่งที่เราเป็นในปัจจุบันอาจจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นก็ได้ครับ
พยายามมองเห็นให้เห็นในสิ่งที่เรามี มองให้เห็นถึงสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ในนั้น แล้วเราก็จะมีความสุขกับมัน โดยไม่เป็นเหมือนชายหนุ่ม 2 คนนั้น ที่มีความสุขนับพันแต่กลับมองไม่เห็นเลย
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น