บทความ นาทีทองจากวิกฤตโควิด2
ในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงทฤษฎีที่ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วนะครับ นั่นคือเราจะใช้เวลาในช่วงโควิดทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นอย่างไรได้บ้าง
จากหนังสือที่ชื่อว่า 500 ล้านปีแห่งความรักเล่มที่
2 นะครับ ผู้เขียน ได้พูดถึงกิจกรรมกิจกรรมหนึ่งครับที่
ทำให้คุณยายและหลานสาว สามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีความสุข กิจกรรมที่ว่าก็คือการดูละครไทยนั่นเองครับ
คุณผู้อ่านเคยสังเกตไหมครับว่า
ละครไทยส่วนใหญ่ มันจะมีบทของตัวละครตัวหนึ่ง ที่เรียกว่าพระรองครับ ซึ่งพระรองส่วนใหญ่นะครับ
ก็มักที่จะเป็นผู้ชายที่ดีแสนดี ทั้งหล่อทั้งรวย
คอยช่วยเหลือและปกป้องนางเอกมาโดยตลอด แต่กลับกลายเป็นว่าในตอนจบพระรองมักจะถูกนางเอกหักอก
แล้วไปคบกับพระเอกทุกทีเลย
ทำไมพระเอกที่ร้ายกับนางเอกในตอนต้นเรื่อง
แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่
เริ่มหันมาห่วงใยและเอาใจใส่นางเอกในตอนท้ายเรื่อง ถึงชนะใจนางเอกไปได้ ทั้ง ๆ ที่พระรองที่ดีเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
กลับไม่ถูกเลือก
ในหนังสือเขาอธิบายแบบนี้ครับว่า
สมองของมนุษย์เราทุกคนนะครับมักที่จะสนใจการเปลี่ยนแปลงมากกว่าสิ่งที่หยุดนิ่งครับ
การที่พระรองดีตั้งแต่ต้นจนจบ มันอาจจะฟังดูดีก็จริงครับ แต่ความดีของพระรอง มันก็หยุดนิ่งอยู่กับที่เช่นกัน
นางเอกอยู่ด้วยนาน ๆ เข้าก็จะเริ่มเบื่อ ในขณะที่พระเอกเริ่มต้นจากติดลบ แล้วค่อย
ๆ ทำคะแนนเพิ่มขึ้นมา จะเห็นได้ถึงพัฒนาการที่ไปในทิศทางที่ดี
พระเอกจึงได้รับความสนใจจากตัวนางเอกอยู่ตลอดครับ
แล้วด้วยกลไกการทำงานของสมองแบบนี้ล่ะครับ
ที่ทำให้มวยรองอย่างเรามีโอกาสพลิกกลับมาชนะใจคนที่เราชอบได้
จากที่เราอาจจะดูไม่เข้าตา
ไม่น่าสนใจ แต่เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่และพัฒนาไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น
เธอหรือเขาก็จะเริ่มมองเห็นและสนใจตัวเรามากเป็นพิเศษ
และเมื่อสิ่งที่มีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด
กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือก เชื่อว่าเขาหรือเธอ คนนั้น คงจะต้องคิดหนักน่าดูครับ
หากวันหนึ่งต้องสูญเสียเราไป
สุดท้ายนี้ผมขอพูดถึงการแข่งขันฟุตบอลแมทซ์หนึ่งครับ
ที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็ก ๆ ผมจำไม่ได้ครับว่าทีมบาซ่าแข่งกับอะไร
แต่ตอนนั้น เวลาการแข่งขันมันหมดลงแล้วครับ บาซ่าตามหลังอยู่ 2 ประตูต่อ 1
แต่กรรมการให้ทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาทีครับ
ในความคิดของคนที่นั่งดูอย่างผมนะครับ ผมคิดว่าบาซ่าคงแพ้แน่ ๆ ครับเกมนี้
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ โรนัลดินโญ่ทำประตูตีเสมอได้ใน 2 นาที และยิงประตูชัยได้ในนาทีสุดท้าย จากที่ตามหลังอยู่ 2 ประตูต่อ 1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อันน้อยนิด
กลับขึ้นมานำ 3 ประตูต่อ 2 และกลายเป็นทีมที่ชนะการแข่งขันครั้งนั้นไป
อย่างสวยงาม
การแข่งขันครั้งนั้นน่าประทับใจมากครับ
สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ คุณผู้อ่านก็เป็นแบบนั้นได้เช่นกัน
นี่ไม่ใช่เสียงนกหวีดจบการแข่งขัน
แต่เป็นการทดเวลาบาดเจ็บ นั่นหมายความว่าคุณผู้อ่านยังมีโอกาสที่จะทำประตูได้อยู่
และดูเหมือนว่าผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามกำลังเผลอซะด้วยครับ
ดังนั้น หากคุณผู้อ่านมีคนที่หมายปองอยู่แล้วละก็
ลองจินตนาการถึงช่วงที่เวลาได้หมุนเดินต่อดูสิครับ รูปโฉมใหม่ ภาพพจน์ใหม่
เกิดเป็นทัศนคติใหม่ ที่มีต่อตัวเรา เดินออกจากฝันร้ายไปสู่อ้อมกอดของชายในฝัน
มันฟังดูดีใช่ไหมล่ะครับ เอาล่ะลุกขึ้นมาเถอะครับ
มาพยายามกันอีกสักตั้ง ให้การกักตัวที่แสนน่าเบื่อเป็นเครื่องมือพาเราไปสู่ชัยชนะ
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น