บทความ นาทีทองจากวิกฤตโควิด
ซึ่งในช่วงที่ covid ระบาดแบบนี้นะครับ
มันก็ทำให้ผม คิดถึงบทความบทคามหนึ่งครับ
ที่ผม เคยเขียนไว้ในเพจ เป็นบทความแรกของผมเลย บทความนี้ ผมได้พูดถึงเรื่องของสถานะของความรักและ covid
ครับ ตอนแรก ก็คิดนะครับว่าคงไม่มีโอกาสได้นำบทความนี้มาพูดแล้วนะครับ
เพราะว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมา covid ก็เริ่มซาลงแล้วนะครับ
แต่พอมันกลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่ง ก็เลยได้โอกาสครับ
หยิบบทความขึ้นมาปัดฝุ่นสะใหม่
โดยในบทความนะครับ
ผมได้พูดถึงสถานะหนึ่งครับ ที่คนมีความรักส่วนใหญ่มักจะเคยเป็นกันทุกคนนะครับ
นั่นก็คือการแอบชอบใครบางคนอยู่นั้นเอง
ซึ่งโดยส่วนตัวนะครับ
ผมมองว่าสถานะแอบชอบใครบางคน มันคือสถานะที่ทำให้เราเสียเวลาชีวิตมาก ๆ เลยครับ
คุณผู้อ่านลองคิดตามผมดูสิครับ
การที่เราแอบชอบเขาอยู่ ก็เท่ากับว่าเขาไม่รู้ใช่ไหมครับว่าเราชอบเขาอยู่
ถ้าเค้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าความรักครั่งนี้ก็ไม่มีทางสมหวังได้เลย ในขณะเดียวกัน การที่เราจะมีความรักให้กับคนใหม่ที่เข้ามาในอนาคต
ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่า เรายังชอบคนคนนี้อยู่ นั่นก็เท่ากับว่าเราจะก้าวเดินต่อไปก็ไม่ได้
จะอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีทางสมหวัง
มันมีคำพูดคำหนึ่งที่ผมเคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วครับ
เขาบอกว่า หนึ่งนาทีที่เราเป็นทุกข์จากใครบางคน มันก็ควรจะเป็นหนึ่งนาทีที่เรามีความสุขกับใครบางคนอยู่ได้เช่นกัน
ดังนั้นผมเลยเชื่อว่าการเข้าไปสารภาพรักแล้วโดนปฏิเสธให้มันจบ
ๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
อย่างน้อยก็ดีกว่าการแอบชอบอยู่อย่างนั้นโดยที่รู้อยู่แก่ใจว่าคงไม่มีวันสมหวัง
แต่ก็ยังก้าวออกมาไม่ได้
ถึงเหตุผลที่ผมยกมามันจะฟังดูดีนะครับแต่ว่าเรื่องของหัวใจ
มันก็บังคับกันไม่ได้ เหรอกครับ
ในบทความนี้ ผมได้พูดถึงสถานะของคนที่กล้าที่จะก้าวออกมาจากการแอบรัก
กล้าที่จะเดินเข้าไปจีบคนที่เรารัก
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนะครับคุณผู้อ่าน
เราก็จะรู้กันดีครับว่า คนที่เราชอบ ก็มักจะมีคนอื่น ชอบเขาหรือเธอคนนั้นอยู่ด้วยเหมือนกันเสมอเลย
แล้วหลาย ๆ ครั่งนะครับ
ที่เราก็จะพบว่า คู่แข่งทางหัวใจของเรา มักที่จะถือไพ่เหนือเราอยู่เสมอเลย
ไม่ว่าจะเรียนเก่งกว่า มีรูปร่างหน้าตาที่ดีกว่า หรือฐานะที่เหนือกว่า
ซึ่งถ้าเราคิดตามหลักเหตุและผลนะครับก็จะพบว่า
ทุกคนย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเสมอ เมื่อเราตกเป็นมวยรองแบบนี้ โอกาสที่เราจะคว้าใจของเค้าหรือเธอคนนั้น ก็คงจะยากมากเลยครับ
ซึ่งถ้าเป็นสถานการณ์ปกตินะครับ
ผมคงต้องบอกคุณผู้อ่านไปตามตรงเลยครับว่า ทำใจเถอะครับ
เพราะว่ามันแทบจะไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้ง ให้คนสองคนหยุดสานสัมพันธ์กันได้เลย
เมื่อเขาเจอกันก็เริ่มส่งตาหวานให้กัน
แล้วเข้าไปพูดคุยกัน ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกัน วันหยุดก็นัดเจอกัน เดทกัน
แล้วสุดท้ายก็จะรักกัน
ซึ่งปกติแล้วนะครับ
สิ่งนี้คือสิ่งที่มวยรอง หรือคนที่แอบชอบทุกคน จะต้องเผชิญในสักวันหนึ่งครับ เมื่อเราเอาชนะใจเขาหรือเธอคนนั้นไม่ได้
สักวันก็จะต้องมีใครสักคนเข้ามา และทำให้เราปวดใจ
แต่ที่พูดมาทั้งหมดน่ะครับมันคือสถานการณ์ปกติครับ
ไม่ใช่ในยุคที่โควิชกำลังระบาดหนักอย่างในตอนนี้
ทุกคนต่างต้องใส่แมสและรักษาระยะห่าง
การนัดเจอก็ ใกล้ชิดกันจึงเป็นเรื่องต้องห้ามในตอนนี้ อาจจะเรียกได้ว่า
มีกำแพงสูงขวางกั้นการสร้างความสัมพันธ์ของใครบางคนอยู่ก็เป็นได้
และในเวลานี้ล่ะครับมันคือนาทีทองของมวยรองอย่างเราครับ
มันเปรียบเสมือนการทดเวลาบาดเจ็บ เพื่อให้เราทำแต้มตามให้ทัน
เมื่อเรารู้แล้วนะครับว่า
เราเป็นรองเขาอยู่ สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือการพัฒนาตัวเองไงครับ
เหมือนกับหนังเรื่องสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ที่นางเอก ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในช่วงปิดเทอม
จากสาวน้อยหน้าตาธรรมดากลายเป็นสาวสวยระดับซุปตาร์ไปในทันที
ที่ผมจะบอกก็คือจงใช้เวลาในช่วงกักตัวให้เป็นประโยชน์ครับ
พัฒนาข้อบกพร่องของเราให้กลายเป็นข้อดี
จากที่เราเรียนไม่เก่งก็ใช้เวลาในช่วงนี้ศึกษาบทเรียนจนกว่าจะเข้าใจ
จากที่เราหุ่นไม่ดีก็ใช้เวลาในช่วงนี้ออกกำลังกายเปลี่ยนแปลงตัวเองซะใหม่ เมื่อ covid จบลงนะครับ
คนที่เราชอบเขาจะได้หันมามองเราใหม่ ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น