บทความ friend zone



เคยสงสัยกันไหมครับว่า ทำไมพวกคนเจ้าชู้ พวกคาสโนว่า เวลาเดินดุ่ม ๆ เข้าไปจีบสาว ถึงจีบติด แต่ทำไมพวกเราพอจะจีบบ้าง ถึงได้ เพื่อน ถึงได้พี่น้องกลับมาทุกที คลิปนี้มีคำตอบครับ 

 

 

พอดแคสต์ ปีก่อนผมเคยเล่าถึงประสบการณ์ของรุ่นพี่คนหนึ่งครับ ที่สามารถจีบสาวสวยติดได้ใน 1 อาทิตย์ แต่ตอนนั้น  เป็นการเล่าผ่านประสบการณ์ของพี่เขาล้วน ๆ เลยครับ ไม่ได้มีงานวิจัยอะไรมารองรับทั้งนั้น 

 

แต่ในวันนี้นะครับ บังเอิญว่าผมได้อ่านหนังสือจิตวิทยาเกี่ยวกับการจีบสาวเล่มนึงครับ แล้วทำให้ผมได้พบความจริงที่น่าตกใจ เพราะสิ่งที่รุ่นพี่คนนั้นทำลงไป  มันตรงตามตำราเป๊ะ ๆ  จนน่ากลัวเลยทีเดียวครับ 

 

วันนี้ ผมก็เลยอยากจะนำเอาข้อมูลตรงนี้นะครับ มาเปิดเผยให้กับคุณผู้อ่านได้รับฟังนะครับ เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้สักทีครับว่า เราพลาดตรงไหน 

 

แต่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ อาจจะต้องย้อนกลับไปไกลสักนิดนึง ย้อนไปถึงยุคหินกันเลยทีเดียวครับ เอาเป็นว่าเรามาค่อย ๆ ฟัง แล้วทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันดีกว่าครับ

 

คือในสมัยก่อนนะครับมนุษย์เพศหญิง และเพศชาย ได้แบ่งหน้าที่ ในการใช้ชีวิตกันอย่างชัดเจนมากครับ 

 

นั่นคือผู้ชายมักจะ ทำงานที่ใช้เรี่ยวแรง อย่างเช่นการล่าสัตว์ครับ 

 

ในขณะที่เพศหญิงนั้น ถึงจะไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงมากเหมือนกับผู้ชายนะครับ แต่กลับมีหน้าที่ที่หลากหลายกว่า 

 

แล้วคุณผู้อ่านทราบไหมครับว่า วิถีชีวิตของมนุษย์ยุคหินนั้น มันได้ถ่ายทอดผ่าน DNA มาถึงมนุษย์ในปัจจุบันด้วยนะครับ

 

นั่นคือสัญชาตญาณบางอย่าง ที่มีมาตั้งแต่ยุคหิน มันได้สะท้อนถึงพฤติกรรมของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว จริง ๆ ถ้าพูดถึงเรื่องของ DNA   มีเรื่องที่น่าสนใจ หลายเรื่องเลยนะครับ อย่างเช่นเรื่องของกรุ๊ปเลือด แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนแล้วกันครับ ไว้มีโอกาสเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง 

 

เอาล่ะ กลับมาที่ยุคหิน หน้าที่ของผู้ชายหลัก ๆ นะครับก็คือการล่าสัตว์ครับ ซึ่งการล่าสัตว์นั้น มันจำเป็นต้องใช้ทักษะในการทำงานเป็นทีม ต้องมีการวางแผน ต้องใช้กลยุทธ์และต้องมีสมาธิมาก ๆ ครับ เพราะการล่าสัตว์นั้นหากเราประมาทแม้แต่เพียงแค่นิดเดียว เราก็อาจจะกลายเป็นคนที่ถูกล่าซะเองก็ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือผู้ชายนั้นอยู่ในโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กครับ 

 

สัตว์ที่แข็งแกร่งกว่า ก็จะได้อาหารเป็นรางวัล 

 

ดังนั้นมนุษย์เพศชายจึงถนัดในเรื่องของการวางแผน และคิดวิเคราะห์ มากกว่าเพศหญิงนั่นเองครับ 

 

ในขณะที่เพศหญิงนั้นก็รับหน้าที่ที่หนักไม่แพ้กันนะครับ พวกเธอนั้นต้องดูแลที่อยู่อาศัย ทั้งการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดเช็ดถู เลี้ยงลูก แถมยังต้องออกไปหาของป่าอีกด้วยนะครับ

 

คุณผู้อ่านจะเห็นนะครับว่า หน้าที่ของเพศหญิงนั้นมีเยอะกว่ามาก ๆ  ดังนั้นพวกเธอจึงต้องทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และด้วยเหตุนั้น ทำให้พวกเธอมีความสามารถที่จะแบ่งความสนใจให้กับหลาย ๆ สิ่งได้ ซึ่งต่างจากเพศชายที่สามารถโฟกัสได้ทีละอย่าง 

 

ดังนั้นหากในปัจจุบัน เราจะเห็นคุณผู้หญิงสามารถที่จะแต่งหน้าไปด้วย ดูซีรีย์ไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วยในเวลาเดียวกันได้  ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยครับ


และเรื่องการหาของป่านั้น ก็อันตรายไม่ใช่เล่นเลยนะครับ เพราะสมัยก่อน ผลไม้หรือผักบางชนิด ก็มีพิษครับ ไม่สามารถกินได้ บางชนิดก็เปรี้ยวเกินไป ไม่ได้หวานอร่อยเหมือนกับผลไม้ในปัจจุบันนี้เหรอกนะครับ ดังนั้นพวกเธอจึงต้องจดจำ และสังเกตความแตกต่างอย่างแม่นยำ เพราะหากกินเห็ดที่มีพิษเข้าไป ก็อาจจะตายกันทั้งเผ่าเลยก็ได้นะครับ

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงส่วนใหญ่จึงมีความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างได้ดีกว่าผู้ชาย พวกเธอมักจะจำแนกและแบ่งแยกประเภทสิ่งของต่าง ๆ  ออกได้อย่างชัดเจน แม้สิ่งเหล่านั้นจะอยู่รวมกัน หรือดูยุ่งเหยิงแค่ไหนก็ตาม 

 

กลับมาที่ปัจจุบันครับ พอจะนึกภาพออกแล้วใช่ไหมครับว่า ทักษะในอดีตนั้น เกี่ยวข้องอะไรกับพฤติกรรมในปัจจุบันบ้าง ที่เห็นชัด ๆ เลย ก็เรื่องของการแยกแยะสีสัน ที่ผู้หญิงมักจะมองได้หลากหลายกว่าผู้ชาย ถ้าไม่เชื่อก็ดูสีลิปติกของพวกเธอสิครับ หรือแม้แต่เรื่องของกระเป๋าของคุณผู้หญิงทั้งหลายก็ด้วยเช่นกัน 

 

ลองคิดดูให้ดี ๆ สิครับ กระเป๋าถือของคุณผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีของใส่ไว้เต็มไปหมดเลย แต่พวกเธอ  ก็ยังสามารถหยิบของ ที่ต้องการออกจากกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย

ที่เป็นแบบนั้นเพราะ พวกเธอมีความสามารถในการจดจำว่าสิ่งไหนอยู่แถวไหน จากการแบ่งประเภทสิ่งของอย่างชัดเจนนั่นเองครับ 

 

เอาล่ะครับเกริ่นนำซะยืดยาวเรามาเข้าประเด็นสำคัญกันเลยดีกว่านะครับ  ด้วยความสามารถในการแบ่งแยกประเภทสิ่งต่าง ๆ ของผู้หญิงนี่ล่ะครับ ที่เป็นตัวปัญหา 

 

เพราะนอกจากพวกเธอจะแบ่งแยกประเภทของสิ่งของอย่างไม่สับสนแล้ว  แม้แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์พวกเธอก็สามารถแยกแยะได้ชัดเจน ไม่แพ้กัน 

 

หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ เพื่อนก็คือเพื่อน หากถูกมองว่าเป็นเพื่อนแล้ว ก็ไม่สามารถเป็นคนรักได้ คนที่จีบก็คือคนที่จีบและคนที่ชอบก็คือคนที่ชอบ พวกเธอจะไม่เอาความสัมพันธ์เหล่านี้มาปะปนกัน ให้สับสนวุ่นวาย โดยไม่จำเป็น 

 

แล้วคุณผู้อ่านลองสังเกตดูสิครับ ว่าตอนที่เราเข้าไปจีบสาว กับตอนที่คาสโนว่า เขาจีบสาว มันต่างกันยังไง 

 

ส่วนใหญ่พวกคาสโนว่าจะเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจ แล้วประกาศจีบอย่างไม่ลังเล พวกเขามักไม่ค่อยจะเขินอายหรือประหม่าแต่อย่างใด 

 

ในขณะที่ผู้ชายธรรมดา ๆ อย่างพวกเรา เวลาจะจีบสาวสักคนนึง เราจะไม่ค่อยมีความกล้ากันขนาดนั้น ส่วนใหญ่เราจะแอบมอง แอบชอบเค้าอยู่นานเลย กว่าจะกล้าเข้าไป ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผิดเหรอกนะครับ อย่างที่ผมบอกครับ หากเราอ้างอิงตามสัญชาตญาณที่ติดตัวเรามาจากอดีต การล่าสัตว์นั้น หากเราบุ๋มบางเข้าไป เราก็อาจจะตกเป็นเหยื่อซะเองก็ได้ ดังนั้นความกลัวแห้ว กลัวอกหัก กลัวผิดหวัง ที่ผู้ชายมี จึงเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ครับ 

 

และด้วยความกลัวไม่สมหวังนี่เองล่ะครับ ที่มันทำให้ผู้ชายหลายคนเลือกเดินเข้าไปใน friend zone โดยไม่รู้ตัว 

 

เพราะหลายคนก็คงจะคิดว่า เริ่มต้นจากตีสนิท เป็นเพื่อนไปก่อน แล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟนก็ได้ ซึ่งแบบนั้นมันปลอดภัยกว่ามาก ๆ  

 

ในขณะที่ฝั่งผู้หญิงนะครับ เขาก็มองว่า ผู้ชายคนนี้เข้ามาเพื่อที่จะเป็นเพื่อน ดังนั้นเพื่อนก็คือเพื่อน เธอจะไม่คิดอะไรเกินเลยกับผู้ชายคนนี้ โดยเด็ดขาด หากไม่จำเป็น 

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลครับว่า ทำไมผู้ชายหลายคนที่พยายามค่อย ๆ ตีเนียนตีสนิทผู้หญิง อย่างช้า ๆ  และค่อยเป็นค่อยไป มักจะจีบสาวไม่ค่อยติด ในขณะที่คาสโนว่าที่ดูเหมือนคนเจ้าชู้ ที่จีบผู้หญิงไปทั่ว กลับสามารถจีบสาวติดได้ในเวลาอันสั้น 

 

เอาล่ะครับที่ผมพูดมาซะยืดยาว  มันก็คงจะมีแค่คำพูดเดียวล่ะครับ ที่ผมอยากจะบอก และคำคำนั้นก็คือ หากจะจีบสาวสักคนนึง ความกล้าคือสิ่งที่สำคัญมากครับ 

 

แต่แน่นอนครับว่า ความกล้าเพียงแค่อย่างเดียวมันคงจะทำให้จีบสาวติดไม่ได้ แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้คนที่คุณผู้อ่านชอบ มองคุณผู้อ่าน ในสถานะที่คุณผู้อ่านต้องการได้ ก็แล้วกันครับ 

 

ซึ่งการที่เราเป็นคนชัดเจนและตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ มันส่งคนดีตามหลักจิตวิทยาด้วยนะครับ มันถูกเรียกว่าปรากฏการณ์ รีซิปเพอเคิล ไลน์กิ้ง ครับ ก็คือ คนเรา  จะรู้สึกดีกับคนที่รู้สึกดีกับเราก่อนครับ

 

ดังนั้นการแสดงออกให้รู้ว่าเราชอบเขา จึงเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยครับ และถ้าจะให้ดีนะครับ ทำตั้งแต่10วินาทีแรก ที่เจอกันเลย ก็จะดีมาก ๆ ครับ

ผมไม่ได้ล้อเล่นนะครับ ตามหลักจิตวิทยาเรียกว่า ไพรมาซี่เอฟเฟคครับ 10 วินาทีแรกนั้นสำคัญมากต่อการสร้างความสนิทสนม ระหว่างผู้หญิง และผู้ชาย ถ้ามีโอกาสได้เจอสาวสวย แล้วเข้าไปทักใน10วินาทีแรก เราก็จะกลายเป็นที่จดจำในทันที

 

ซึ่งวิธีการที่จะแสดงให้อีกฝ่ายรับรู้นะครับว่า เรากำลังสนใจในตัวเขาอยู่ ก็ง่ายมาก ๆ ครับ แล้ววิธีนี้  ก็สามารถใช้ได้กับทุกกรณีด้วยนะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เรารักเท่านั้น วิธีที่ว่าก็คือ คุณผู้อ่านก็เพียงแค่ กล่าวชมเชย และตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูด ครับ

 

การแสดงปฏิกิริยาตอบกลับ ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังพูด ก็เพียงพอแล้วครับ ที่จะทำให้อีกฝ่าย รู้สึกสึกได้ว่า เราชอบเขา เราอยู่ข้างเดียวกับเขา และเมื่อเค้ารับรู้ว่าเราชอบเค้าเค้าก็จะรู้สึกดี ๆ กับเรากลับมาด้วยเช่นกัน

 

จงทำให้เธอคนนั้นรับรู้อย่างชัดเจนครับว่า นี่คือความรัก จงวางภาพลักษณ์ให้เธอดูออก เพราะสถานะที่แยกแยะไม่ออก คุณผู้อ่านอาจจะถูกหลอกเดินเข้าไปใน friend Zone 

 

ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านสมหวังในความรักนะครับ และนี่คือบทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคส ขอให้ความสุขส่งไปถึงหัวใจ แล้วพบกันใหม่ ฝันดีครับ



 สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ

จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม  พอดแคสต์

ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทความ แตะตัวทำให้ชอบกันได้ไหม

วิธีลืมความรักครั้งเก่า

ทำไมคุณถึงไม่ควรแคร์คำพูดของป้าข้างบ้าน

บทความ ทำนายชีวิตรัก ด้วยความรักทั้ง 6 รูปแบบ

บทความ เทคนิคการจีบสาว ฉบับเจ้าของเพจสายลมแห่งชีวิต