บทความ 7 สิ่งที่เราควรเก็บมันไว้เป็นความลับตามความเชื่อในปรัชญาฮินดู
เมื่อประมาณ 2000 ปีที่แล้วนะครับ ได้มีนักปราชญ์ชาวโรมันคนนึงครับ มีนามว่า เซเนก้า เขา เคยเกล่าไว้ว่า ถ้าใครก็ตามนะครับ
ต้องการที่จะเก็บความลับของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย
คุณก็ควรที่จะเก็บไว้กับตัวคุณเองเท่านั้น โดยห้ามบอกใคร
ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ความลับนะครับ
แต่บางอย่างที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว เราก็ไม่ควรบอกใครเช่นกัน
เรามาดูกันดีกว่าครับว่า 7 ข้อที่เขาห้าม ไม่ให้บอกใคร มันมีอะไรบ้าง
ข้อที่ 1 อย่าเปิดเผยปัญหาครอบครัวให้ใครรู้
ข้อที่ 1 นี้เป็นอะไรที่ Basic มากเลยนะครับ อย่างคนไทยเรา ก็มีสุภาษิตสอนเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
เวลาแต่งงานผู้ใหญ่ก็มักจะสอนเรานะครับ ว่า
ถ้ามีปัญหาอะไรในครอบครัว
ก็ให้เก็บเอาไว้ อย่าเอาไปเล่าให้ใครฟัง ดังสุภาษิตไทย ที่ว่า
ความในอย่านำออก ความนอกอย่านําเข้า
คือผู้เขียนบอกว่า คนนอกมักจะชอบตัดสินในสิ่งที่เขาได้ยิน
และได้ฟังมาครับ โดยที่พวกเขา ไม่ได้สนถึงข้อมูลเชิงลึกอะไรเลย
ได้ยินมาแค่ไหนเขาก็ตีความแค่นั้นซึ่งเรื่องบางเรื่อง คนนอกไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้เหรอกครับ
ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเขารับรู้ไป เขาก็แค่เอาไปบอกปากต่อปากไปก็เท่านั้นเองครับ
แล้วมันก็ไม่เคยส่งผลดีกับครอบครัวของเราเลย
ดังนั้นเรื่องในครอบครัว ก็ให้อยู่แค่ในครอบครัว จะดีกว่าครับ
อย่านำไปบอกให้ใครได้รับรู้
ข้อที่ 2 อยากคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับงานการกุศล
แน่นอนครับว่า การเป็นคนใจบุญสุนทาน คอยช่วยเหลือผู้อื่น เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง
และควรเชิดชูมาก ๆ เลย แต่ถึงอย่างนั้นธรรมชาติของคนนะครับ กลับไม่ชอบให้ใคร มานั่งโอ้อวดว่า ตัวเองเป็นคนดีอย่างโน้น
อย่างนี้
ให้ฟังนะครับ
ดังนั้นเมื่อคุณทำความดีก็ให้เก็บสิ่งนั้นไว้
ให้ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เก็บไว้ไม่ต้องให้ใครรู้ครับ
ข้อที่ 3 อย่าเล่าทุกสิ่งที่คุณได้ยิน ได้ฟังมา
คือเรื่องบางเรื่องที่เรารับรู้มานะครับ มันก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริงเสมอไป
โดยเฉพาะเรื่องที่มันเป็นแง่ลบ เรื่องที่มันไม่ดี
การที่เราเก็บมันเอาไว้ แล้วนำไปเล่าต่อ มันไม่เคยส่งผลดีเลยครับ
ยิ่งทำให้คนที่รับฟัง ก็จะยิ่งจิตตกไปกับเราด้วย
ดังนั้นถ้าอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หากเราฟังมา
ก็ให้ลืมมันไปเถอะครับ อย่าเก็บมันไว้หรืออย่านำมันมาเล่าต่อเลย
ไม่ควรเอาเรื่องราวไม่ดีกลับไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง
ข้อที่ 4 เก็บความเชื่อในด้านของจิตวิญญาณไว้กับตัวของคุณเพียงคนเดียว
เรื่องความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล
ดังนั้น เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องเอาไปบอกใครเหรอครับ
ว่าเรามีความเชื่อแบบไหน เก็บไว้กับตัวแหละดีที่สุดแล้ว
เพราะการเอาความเชื่อของเรา ไปเล่าให้คนที่เขาไม่ได้เชื่อแบบเราฟัง
มันไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน
ข้อที่ 5 โครงการที่เราวางไว้ให้เราเก็บไว้เงียบ ๆ
สิ่งที่เราวางแผนไว้ว่าจะทำ
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายระยะสั้นกลางหรือยาวก็ตาม
หากมันเป็นสิ่งที่เราวางแผนไว้ การเก็บมันไว้ไม่ต้องบอกใคร เป็นสิ่งที่ดีครับ
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเรากำลังจะลดน้ำหนัก
การไปป่าวประกาศว่าฉันกำลังจะลดน้ำหนัก
มันไม่เคยส่งผลดีเลยครับ เผลอ ๆ จะโดนเพื่อนแกล้งอีกด้วย
ดังนั้นเก็บไว้กับตัวนะครับ ไว้สำเร็จเมื่อไหร่ ค่อยออกมาบอกก็ไม่ยังไม่สาย
ข้อที่ 6 อย่าเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครรู้
เรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเราก็ให้เก็บไว้รู้เฉพาะแค่เราก็พอครับ
เช่นวิธีการนอน หรืออุปนิสัยแปลก ๆ ของเรา
เพราะเรื่องบางเรื่องก็ไม่มีเหตุผลที่เราต้องนำไปบอกใครครับ
ข้อที่ 7 ข้อสุดท้าย การกระทำที่กล้าหาญจงเก็บไว้กับตัวอย่าบอกใคร
บางครั้งเวลาเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่มันค่อนข้างจะกล้าหาญ
หรือมีทัศนคติที่เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด มันอาจจะฟังดูดีก็จริงครับ
แต่การนำไปเล่าให้คนอื่นฟังมันก็ยังไม่เคยส่งผลดีอะไรกับเราตามมาอีกเช่นกัน
เพราะการเล่าเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นฟังเขาก็แค่ชมเรากลับมาตามมารยาทเท่านั้นล่ะครับ
เรื่องของความกล้าหาญและเป็นเรื่องที่เขาต้องเห็นประจักษ์ด้วยตาตัวเองเขาถึงจะนับถือครับไม่ใช่นับถือผ่านจากเรื่องที่เราเล่าให้ฟัง
คือโดยสรุปนะครับ จากการที่ผมอ่านบทความนี้มาแล้วนะครับ ทำให้ผม คิดว่าเหตุผลนะครับที่เขา อยากจะให้เราเก็บ7ความลับนี้ไว้กับตัว
ไม่ต้องบอกใครนะครับหลัก ๆ เลยก็คือเขากลัว ปากคนครับ คือคนเรา จะชอบฟังสิ่งต่าง ๆ ของคนอื่น แล้วชอบวิจารณ์
ชอบตัดสินครับ
ซึ่งหลายครั้งนะครับ ที่คนที่ฟัง เขาก็ไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่เขาฟังขนาดนั้น
หลายอย่างที่เขาฟังมา เขาก็นำไปตีความแบบส่ง
ๆ แล้วก็เอาไปเล่าต่อแบบส่ง ๆ ดังนั้นหลาย ๆ เรื่องหากเรานำไปเล่าให้คนอื่นฟัง
จากเรื่องที่มันจะส่งเสริมและทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
อาจจะกลายเป็นการทำให้ชีวิตเราแย่ลง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ครับ
อย่างเช่นข้อที่ 6 นะครับ ที่เขาไม่ยอมให้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวของเราให้ใครรับรู้
นั่นก็เพราะว่าการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นรับรู้ มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรแก่เราเลยสักนิด
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสังคมอาจจะไม่ใช่ความลับของคน
แต่อาจจะเป็นคำพูด และความคิดของคน ที่ไม่น่าไว้ใจ ดังนั้น จงเก็บความลับทั้ง 7 เอาไว้ให้ดีและอย่าบอกใคร
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น