บทความ ทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรัก

 

ความรักคืออะไร ทำไมคนคนหนึ่งถึงรู้สึกรักคนคนหนึ่งโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วจะทำยังไง เราถึงจะได้ความรักมาครอบครอง 

Professor Robert Sternberg จาก Yale University ได้ทำงานวิจัยเรื่องนี้ แล้วก็ได้ค้นพบทฤษฎีที่น่าสนใจ มาฟังกันครับ 

 

สวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ บทสรุปฉบับแฮม แฮม พอดแคสต์ ดำเนินรายการโดยผม แฮม มติพงศ์ ตรึกตรอง

 

อย่างที่ได้เกริ่นนำไปแล้วนะครับว่า Professor Robert Sternberg จาก Yale  เขามีทฤษฎีที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรัก โดยทฤษฎีนี้นะครับ ถูกเรียกว่า 

ทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรัก 

 

 โดยศาสตราจารบอกว่าความรักนั้นประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบด้วยกันนะครับ 

 

ได้แก่ อินทิเมซี่ ความสนิทสนม แพชชั่น ความหลงใหล แล้วก็ คอมมินเม้น หรือว่า การผูกมัดนั้นเอง

 

อ่ะ เรามาว่ากันทีละตัวเลยนะครับ 

เริ่มจากความสนิทสนมก่อน โดยเจ้าตัวความสนิทสนมนี้นะครับ มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุก ๆ ความสัมพันธ์เลยก็ว่าได้ครับ โดยการที่จะสนิทสนมกันได้นะครับ ก็จะมีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ คือยิ่งใช้เวลาร่วมกันมากเท่าไหร่นะครับ ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นเท่านั้นแหละครับ 

 

ดังนั้นหลายคนที่กำลังแอบชอบใครบางคนอยู่ห่าง ๆ นะครับ ก็จงรู้ไว้เลยนะครับว่า แค่องค์ประกอบแรกของความรัก  คุณก็ไม่มีแล้วนะครับ 

 

ต่อไปก็คือตัวที่ 2 ความหลงใหลครับ 

ซึ่งอันนี้  ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านน่าจะทำความเข้าใจได้ไม่ยากนะครับ เพราะว่าเวลาเราชอบใครสักคนหนึ่ง  มันก็จะมีเรื่องของ แรงดึงดูดทางเพศ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอครับ 

 

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราไม่ใช่ผู้หญิงหรือผู้ชายที่ตรงสเปคของคนที่เราชอบ เราก็ไม่สามารถดึงดูด หรือทำให้เขาหลงใหลในตัวเราได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าเราไม่ผ่านองค์ประกอบที่ 2 ที่จะทำให้ก่อเกิดเป็นความรักได้นั้นเองครับ 

 

ต่อไปคือข้อที่ 3 การผูกมัด 

อันนี้ก็คือการยกระดับความสัมพันธ์นั่นแหละครับ คือเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เรามีครับ เช่นเราอาจจะทำสัญญาใจกันว่า ตอนนี้เรากำลังเป็นคนคุยกันอยู่นะ กำลังศึกษาดูใจกันอยู่  หรือบางคนคุยกันมาสักพักหนึ่งแล้ว ก็ตัดสินใจว่า ต่อจากนี้  เราสองคน จะเป็นแฟนกันแล้วนะ  ตกลงกันว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปยาว ๆ  อะไรประมาณนั้นนะครับ

 

ซึ่งเมื่อเรามี 3 องค์ประกอบนี้มารวมกันจนครบนะครับ ก็จะทำให้คนสองคนเนี้ยรักกันได้ในที่สุดนั่นเองครับ 

 

แต่ปัญหาก็คือ แล้วถ้ามีไม่ครบล่ะ ถ้าบางคนมีแค่ข้อเดียว หรือบางคนมีแค่ 2 ข้อ หรือบางคนไม่มีเลยสักข้อล่ะ มันจะเป็นยังไง 

มันก็จะกลายเป็นความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ความรักครับ โดยความสัมพันธ์ที่ว่านั้น ก็จะแบ่งแยกออกเป็น 8 รูปแบบด้วยกัน  เรามาฟังกันทีละรูปแบบเลยนะครับว่า มันมีอะไรบ้าง 

 

รูปแบบที่ 1 นั่นก็คือ ไม่มีความรักครับ โดยรูปแบบนี้นะครับ เป็นรูปแบบที่ไม่มีข้อไหนเลยครับ ใน 3 องค์ประกอบ ก็คือไม่มีความสนิทสนม ไม่มีความหลงใหล ไม่มีการผูกมัดใด ๆ นั้นเองครับ

 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 2 ความชอบ 

รูปแบบนี้นะครับ จะมีเรื่องของ ความใกล้ชิดเข้ามาเป็นส่วนประกอบครับ คือการที่เราสนิทกับใครมาก ๆ   เราก็จะเกิดความรู้สึก ชอบ ขึ้นมาได้นั่นเองครับ 

ดังนั้นถ้าเรา อยากให้ใครสักคนหนึ่ง มาชอบเรานะครับ การสร้างความสนิทสนมกับเขาให้มาก ๆ  ก็จะทำให้เขาชอบเราได้นั่นเองครับ 

 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 3 ความหลงใหล 

ก็ตรงตัวเลยครับ มีเรื่องขององค์ประกอบที่ 2 คือ passion เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เป็นความรู้สึกที่เข้าใจง่าย ๆ นะครับ เวลาเราเจอคนหล่อ คนสวยเราก็จะรู้สึกหลงใหลในตัวพวกเขา บางคนที่โดนใจมาก ๆ  เจอครั้งแรกก็อาจจะทำให้ใจเต้นแรงได้เลยทีเดียว ซึ่งหลายคนก็เข้าใจผิดว่า นั่นคือความรัก แต่จริง ๆ แล้วมันก็แค่ความหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นครับ 

 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 4 ปราศจากความรัก 

ก็คือเป็นความสัมพันธ์ที่มีแค่เรื่องของคอมมิทเม้นหรือการผูกมัด เท่านั้น  ไม่ได้มีเรื่องของความสนิทสนม หรือความลงไหลเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ประมาณว่าโดนคลุมถุงชน หรือต้องแต่งงานกับคนที่เราไม่ได้ชอบ ต้องคบกับคนที่เราไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย อะไรประมาณนั้นนะครับ 

 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 5 โรแมนติกครับ  รูปแบบที่ 5 นี้นะครับ ประกอบไปด้วย ความสนิทสนม และความหลงใหล ครับ แต่จะไม่มีเรื่องของการผูกมัดเข้ามาเกี่ยวข้อง 

ความรักแบบนี้นะครับ เป็นความรักที่ทุกคนเฝ้าฝันถึงครับ เป็นช่วงเวลาที่หัวใจกำลังเบ่งบานมากที่สุด เพราะเรายังไม่มีการผูกมัดในสถานะใด ๆ กัน แต่ทั้งสอง ก็สนิทกันมาก ๆ  แล้วก็ รู้สึกชอบพอกันแบบสุด ๆ  ทำให้ช่วงเวลานี้นะครับ บอกเลยว่า

 แค่เดินมาเจอกัน  โลกก็กลายเป็นสีชมพูแล้วครับ 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 6 มิตรภาพ ครับ 

ก็จะประกอบไปด้วยความผูกพัน แล้วก็การผูกมัด ซึ่งผูกมัดในที่นี้ ก็คือผูกมัดในสถานะเพื่อนนั่นแหละครับ 

 

อารมณ์ประมาณว่า สนิทกันมาก คบกันมานานแล้ว ก็เลยเลื่อนสถานะขึ้น จากเพื่อนธรรมดาให้กลายเป็นเพื่อนรัก หรือกลายเป็นเพื่อนสนิท อะไรประมาณนั้นนะครับ ซึ่งสถานะนี้ เป็นสถานะที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ ซึ่งบอกเลยนะครับว่า เพื่อนแท้นั้นในยุคสมัยนี้ หายากพอ ๆ กับรักแท้เลยครับ ดังนั้นถ้าคุณผู้ฟังมีอยู่ ก็เก็บรักษาไว้ให้ดี ๆ นะครับ

 

ต่อไปคือรูปแบบที่ 7 รักแบบสายฟ้าฟาด อันนี้คือเป็นความสัมพันธ์ที่ประกอบไปด้วย ความหลงใหล และการผูกมัดครับ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยนะครับ  

โดยความสัมพันธ์แบบนี้นะครับ ก็มักที่จะ เกิดขึ้นเร็ว แล้วก็จบลงด้วยความรวดเร็วด้วยเช่นกัน อารมณ์ประมาณว่า ชอบรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย ก็เลยคบกัน แต่พอคบกันได้สักพักหนึ่ง  ก็เลิกกันประมาณนั้นนะครับ 

 

ต่อไปคือ รูปแบบสุดท้าย รู้แบบที่ 8 นะครับ  นั่นก็คือความรักที่สมบูรณ์แบบครับ ความรักแบบนี้ก็คือประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบที่กล่าวมาข้างต้นนั่นแหละครับ ได้แก่ความสนิทสนม ความหลงใหล และการผูกมัด ซึ่งถ้ามีทั้ง 3 องค์ประกอบนี้อยู่ครบ ความรักครั้งนั้น ก็จะกลายเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบนั่นเอง 

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับทฤษฎีนี้นะครับที่คุณผู้อ่านต้องทำความเข้าใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือ 

สามเหลี่ยมแห่งความรักของเรา กับสามเหลี่ยมแห่งความรัก ของคนที่เราชอบ อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้นะครับ 

 

เช่นสามเหลี่ยมแห่งความรักของเรา  เราอาจจะรู้สึกว่าเราสนิทสนมกับเขามาก ๆ เลย แล้วเรา  ก็รู้สึกหลงใหลในตัวเขามาก ๆ  

แต่กลับกลายเป็นว่า ในสามเหลี่ยมแห่งความรักของเขา  เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกสนิทสนมกับเราขนาดนั้น และเขา  ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกหลงใหลในตัวเราเหมือนกับที่เรากำลังหลงใหลในตัวเขาอยู่ก็ได้นะครับ 

 

ดังนั้นในเมื่อความรักเป็นเรื่องของคนสองคน การที่เราจะทำให้ ทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรักเป็นจริงได้ เราก็ต้องทำให้ทั้งสองฝ่าย รู้สึกแบบเดียวกันครับ 

 

และเรื่องสุดท้ายนะครับ ผมขอฝากไว้นิดหนึ่ง ถึงทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรัก จะเป็นทฤษฎีที่ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ทั้ง 3 องค์ประกอบนั้น ก็เป็นองค์ประกอบที่สามารถเพิ่ม ลด ได้อยู่ตลอดเวลานะครับ 

วันนี้สนิทกัน แต่อนาคต อาจจะไม่สนิทแล้วก็ได้

วันนี้อาจจะหลงใหล ในรูปร่างหน้าตาของเขา แต่อนาคตก็จะไม่หลงใหลแล้วก็ได้

วันนี้อาจจะผูกมัด อยู่ในสถานะต่าง ๆ ได้สำเร็จ

แต่อนาคตก็อาจจะเลิกกันก็ได้

 

ดังนั้นเรื่องของความรัก มันไม่แน่ไม่นอนเหรอกครับ อย่ายึดติดกับความรัก มากจนเกินไป มากจนรู้สึกว่า

เราคงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีมัน 

จงแบ่งความรักที่แสนสำคัญ แบ่งมาจากคนคนนั้น มาเก็บไว้ให้ตัวเราเอง 

สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ

จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม  พอดแคสต์

ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^