บทความ หลอกถามความในใจ
เทคนิคหลอกถามความในใจด้วยเรื่องสมมุติ
ในสังคมที่ทุกคนล้วนใส่หน้ากากเข้าหากัน
การที่เราจะล่วงรู้ ความในใจของใครสักคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ เลยนะครับ
แต่ถ้าเราสามารถรู้สิ่งที่เขาคิด รู้ความในใจของเขาได้จริง ๆ แล้ว คุณผู้อ่านคิดว่า
มันจะเป็นเรื่องที่ดีจริงหรือเปล่า
ในซีรีย์เรื่อง
Smallville
นะครับ เค้าได้เล่าถึง ชีวิตของซุปเปอร์แมนสมัยตอนเด็ก
ในตอนนั้นClark kent ของเรา เพิ่งจะได้พลังพิเศษในการมองทะลุกำแพงได้มาครับ
เขาจึงใช้สายตาเอกซเรย์ของเขา
มองทะลุทะลวงทุกอย่าง
และมองเห็นความจริงที่ถูกซ่อนไว้หลังกำแพง
ซึ่งก็ได้มีอยู่ฉากหนึ่งครับ
ที่เขาได้ใช้สายตาเอกซเรย์มองทะลุกำแพง จนไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็น นั่นคือ
การเห็นคนที่เขาชอบอยู่กับผู้ชายคนอื่น ทำให้เขาเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก
เขาจึงหันไปถามกับแม่ของเขาครับว่า
ถ้าเราสามารถมองเห็นได้ทุกสิ่ง เราควรที่จะทำยังไงครับ แม่ของเขาจึงตอบว่า
เราก็ต้องหัดเรียนรู้ที่จะหลับตาเสียบ้างนะลูก
เรื่องนี้สอนให้รู้นะครับว่า
การมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
การรู้ไปซะทุกเรื่อง
อาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับเราอย่างที่คิดก้ได้ครับ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคุณผู้อ่านยังยืนยันว่า ยังไง๊ยังไง ก็ยังอยากรู้สิ่งที่อยู่ในใจของคนอื่นอยู่ดี
ผมก็มีเทคนิคง่าย ๆ มาฝากครับ
เทคนิคที่ว่านั้น
เรียกว่า เทคนิคหลอกถามความในใจด้วยเรื่องสมมุติ
พลังของเรื่องสมมุติเป็นพลังที่น่าพิศวงมากนะครับ
การที่เราจะถามความในใจกับใครสักคนหนึ่ง โดยอ้างว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องสมมุติ
มันสามารถทำให้คนที่ถูกถาม
เกิดความรู้สึกไม่ระวังตัว
และตอบความจริงกับเราได้อย่างง่ายดายครับ
จากหนังสือที่ชื่อว่า
เทคนิคอ่านจิตรู้ใจผู้อื่น ของ อีซามุไซโต ครับ
เขาได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ในการซื้อของกับแม่ค้าที่ตลาดครับ โดยเขา จะซื้อเสื้อราคา
500
บาท แต่เขาคิดว่ามันแพงเกินไป
เขาจึงไปต่อราคากับแม่ค้า แม่ค้าจึงบอกว่า เสื้อตัวนี้ลดได้สุด ๆ เลยนะ ได้แค่ 450 บาทเท่านั้น ซึ่งแม่ค้าพูดมาแบบนี้
คุณผู้อ่านคิดว่า
นั่นคือความในใจ ของแม่ค้าจริง ๆ แล้วหรือยังครับ
ลูกค้าก็เลยถามแม่ค้าต่อครับว่า
เสื้อแบบนี้
ยังมีอีกกี่ตัวครับ
แม่ค้าก็เลยตอบว่ามี
10
ตัว
จังหวะนั้นละครับ
ลูกค้าก็เลยใช้จิตวิทยาถามแม่ค้าไปเลยครับว่า
สมมุติว่าถ้าซื้อทั้งหมดเลย
แม่ค่าจะคิดเท่าไหร่ครับ
แม่ค้าจึงบอกว่า
ถ้าซื้อทั้งหมดนะ คิดตัวละ 300 เลย
เห็นไหมครับนี่คือความจริงในใจของแม่ค้า
จริง
ๆ แล้วแม่ค้า เสื้อทั้ง 10 ตัวแค่ขายได้ตัวละ 300 แม่ค้าก็โอเคแล้ว
พลังของการสมมุตินะครับ
จะทำให้ คนคนนั้นพูดความจริงในใจออกมาอย่างไม่ยากเลยครับ
คุณผู้อ่านสามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้เพื่อทดสอบความรู้สึกของคนที่คุณผู้อ่านรักดูด้วยก็ได้นะครับ
สมมุติว่าคุณผู้อ่านชอบใครสักคนหนึ่งมาก ๆ แต่ไม่กล้าบอกเขา อาจจะเปิดบทสนทนาด้วยการถามว่า
สมมุติว่าพรุ่งนี้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เธอจะรู้สึกยังไง
หรืออาจจะนำไปลองใจเพื่อนดูก็ได้นะครับว่า
สมมุติว่าถ้าฉันเป็นหนี้เธอจะให้ฉันยืมเงินไหม อะไรประมาณนี้นะครับ
แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ
การรู้ไปซะทุกเรื่อง ไม่ได้แปลว่าเราจะได้คำตอบที่เราต้องการมาเสมอไป
บางครั้งการรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ มันก็อาจจะทำให้เราปวดใจ
ไม่ต่างอะไรกับซุปเปอร์แมน
ดังนั้นถ้าคุณผู้อ่านไม่กลัวความจริงในใจของผู้อื่น
ก็สามารถเปิดกล่องแพนโดร่า ด้วยเรื่องสมมติได้เลยครับ
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น