บทความ ข้อคิดที่ได้จากการเล่นว่าว
คุณผู้อ่านเคยได้ยินคำว่า
บางครั้งจุดหมายปลายทาง . ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับ
สิ่งที่เราพบเจอระหว่างทาง กันบ้างรึเปล่าครับ
คำพูดประโยคนี้นะครับ มีความหมายที่อยากจะให้เรานะครับ
ให้ความสำคัญกับ ทุกสิ่งครับ ไม่ใช่เอาแต่สนใจเพียงแค่ ผลลัพธ์ หรือว่า
ปลายทางเพียงแค่อย่างเดียว
ซึ่งส่วนตัวแล้วนะครับ ผมก็ค่อนข้าง ชอบแนวคิดนี้มาก ๆ เลย
แต่บทความจากเพจสายลมแห่งชีวิต บทความหนึ่งครับ ได้นำเสนอแนวคือที่แตกต่างออกไป
และแนวคิดนั้นก็เป็นแนวคิดที่ เราไม่ควรมองข้ามเช่นกันครับ
แนวคิดที่ว่า คือแนวคิดอะไร มาฟังกันครับ
ผู้เขียนนะครับ เล่าให้เราฟัง ถึงประสบการณ์การไปเที่ยวทะเลใต้
เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาครับนะครับ
ตั้งแต่เกิดมา เขายังไม่เคยเห็นทะเลเลย
ก็เลยค่อนข้างที่จะประทับใจ กับหาดทราย สายลม และแสงแดด เอามาก ๆ ครับ
ซึ่งผู้เขียนนะครับ ได้เล่าถึงกิจกรรมที่ได้ทำริมชายหาดมากมายครับ
และกิจกรรมที่ผู้เขียนค่อนข้างประทับใจมากที่สุด
และอยากจะเล่าให้เราฟังในบทความนี้นะครับ นั่นก็คือ การได้มีโอกาสเล่นว่าวที่ทะเลใต้
นั่นเองครับ
โดยว่าวที่เข้าขายนะครับ มันจะมีรูปทรงที่แตกต่างจากที่อื่น
ว่าวที่แม่ค้าขายที่ทะเลนั้น ทำมาจากโฟมครับ
เขาใช้โฟมสีขาวมาตัดเป็นรูปเครื่องบินแล้วนำมาขาย แล้วผู้เขียน ก็ซื้อมาในราคา 120 บาทครับ
อันนี้ผมขอบอกเลยนะครับ ในฐานะที่ผมเป็นคนใต้ จริง ๆ แล้วราคามันไม่ควรจะแพงขนาดนั้นนะครับ
คิดว่าผู้เขียนน่าจะโดนต้มแล้วนะครับ เพราะว่าตอนเด็ก ๆ ผมก็เคยได้เล่นเหมือนกัน
ราคามันก็อยู่แค่ประมาณ 20-40 บาทเท่านั้นเอง
ถ้าจะแพงจริงไ ก็น่าจะ 60 ไม่ก็ 80 ครับ
แต่ 120 มันแพงเวอร์เกินไปครับ
ซึ่งหลังจากที่ผู้เขียนได้กลับมาที่บ้านนะครับ
เขาก็ได้เล่าประสบการณ์ที่เขาได้ไปเที่ยวทะเลใต้ ให้กับเพื่อน ๆ เขาฟัง
แน่นอนว่าสิ่งที่เขา ไม่ลืมที่จะเล่าอย่างแน่นอน นั่นก็คือ
ประสบการณ์ ที่ได้เล่นว่าวที่ทะเลใต้ครับ
เพื่อน ๆ ก็ถามว่ามันสนุกยังไง เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ
ผู้เขียนก็บอกว่า ขั้นตอนการเล่นว่าวนะครับ อันดับแรก เราก็ต้องโยนว่าวขึ้นไปบนฟ้าครับ
จากนั้นก็ถือสายป่านแล้วก็วิ่งให้สุดแรง และเมื่อว่าวติดลมบนแล้ว มันก็จะลอยขึ้นไปเอง
ซึ่งแน่นอนว่าที่ทะเล ก็จะมีลมทะเลที่แรงอยู่แล้วนะครับ ทำให้การทำว่าวให้ขึ้นไปบนฟ้า
จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากขนาดนั้น
เพื่อน ๆ ก็ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจครับ ก่อนที่จะถามว่าแล้วไงต่อ
ผู้เขียนบอกว่าตอนที่เพื่อน ๆ ถามประโยคนี้นะครับ
ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงต่อเหมือนกัน เพราะว่าการเล่นว่าวมันก็ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้
เมื่อเราโยนขึ้นไปบนฟ้าเมื่อมันติดลมบนและลอยอยู่บนฟ้า
เราก็มีหน้าที่แค่ถือสายป่านไว้เฉย ๆ แล้วก็จ้องมองมันลอยอยู่บนฟ้าอยู่อย่างนั้น
ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อขั้นตอนในการเล่นมันมีอยู่เพียงเท่านั้นนะครับ
เพื่อน ๆ ก็เลยไม่เก็ตครับว่า มันสนุกตรงไหน
ซึ่งตอนแรก ผู้เขียนก็บอกว่า
ผู้เขียนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่ามันสนุกตรงไหน พอเล่าให้ฟังแล้วก็เกิดนึกได้ว่า
มันแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย
ก็หลังจากที่เขาทบทวนความรู้สึกของตัวเอง ที่มีในตอนนั้นนะครับ
ก็ทำให้เขาสรุปได้แบบนี้ครับว่า
ความสนุกที่แท้จริงจากการเล่นว่าว มันไม่ได้อยู่ที่วิธีการเล่นครับ
แต่มันอยู่ที่การที่เรา ได้จ้องมองดูว่าวที่ลอยอยู่บนฟ้า
มันคือความสุขที่เกิดจากการได้จ้องมองดูความสำเร็จจากความพยายามของเรา
ซึ่งผู้เขียนบอกว่า ความรู้สึกนี้ เป็นความรู้สึกที่ผู้เขียนแทบจะไม่ได้สัมผัส
มันมาเป็นเวลานานแล้ว
เพราะว่าผู้เขียน หลัง ๆ ก็แทบจะ
ไม่เคยพยายามทำอะไรจนประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่แล้วก็จะล้มเลิกไปก่อนเสมอเลย
ผู้เขียนจึงบอกว่านี่คือความสุขอีกรูปแบบหนึ่งครับ
เป็นความสุขที่คนสมัยใหม่ อาจจะลืมเลือนไป
โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
เพราะพวกเรา มีแนวคิดใหม่
นั่นคือให้เก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทาง ให้ได้มากที่สุด
แล้วอย่าสนใจสิ่งที่อยู่ปลายทางให้มากนัก เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อเดินไปถึงปลายทาง
สิ่งนั้นอาจจะไม่ใช่ความสุขก็ได้
แต่ผู้เขียนบอกว่า การที่เราสามารถก้าวเดินไปถึงเส้นชัยหรือว่าปลายทางของเรา
ได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะสนุกและมีความสุขกับการ
ได้จ้องมองดูความสำเร็จของเรา ได้นานขึ้นเท่านั้น
และความรู้สึกนี้
จะเกิดกับคนที่ทุ่มเทและพยายามวิ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างจริงจังเท่านั้น
ผู้เขียนบอกว่าความสำเร็จนั้น
ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์เรานะครับ ดังนั้นอย่าสนใจแค่ความสุขเล็ก ๆ น้อย
ๆ ข้างทาง จนไม่ยอมเดินต่อให้ถึงปลายทางครับ
หลังจากที่ผมอ่านบทความนี้จบนะครับ ผมมีความคิดแบบนี้ครับว่า
จริง ๆ แล้วมันก็สำคัญทั้งหมดนั่นแหละครับ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความสุขที่อยู่ระหว่างทาง
มันก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่สิ่งที่เราจะลืมเลือนไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ เป้าหมายหรือว่าปลายทางที่เราอยากที่จะก้าวไป
ตั้งแต่แรกนะครับ
บางครั้งเราอาจจะมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ข้างทาง มากจนเกินไป มากจน
เลือกที่จะเดินออกนอกเส้นทางแล้วไม่ก้าวเดินต่อ
เราอาจจะปีนเขาขึ้นไป ถึงกลางทาง
แล้วบอกว่าแค่มองจากตรงนี้วิวก็สวยมากแล้ว ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องปีนขึ้นไปต่อ
แต่ความจริงแล้วนะครับ การทำตามเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วงนั้น
มันมีคุณค่ามากกว่าแค่ผลลัพธ์ก็ได้นะครับ
เพราะว่าความสำเร็จนั้น มันมีค่ามากพอ ที่จะทำให้เราภูมิใจ
แล้วมันอาจจะเป็นความสุขรูปแบบใหม่ ๆ ที่ต้องเดินให้ถึงเส้นชัย ถึงจะรู้ครับ
ดังนั้นหากมีเป้าหมาย จงให้คุณค่ากับระหว่างทางและปลายทางด้วยนะครับ
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น