บทความ ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ขาด
มีโฆษณาตัวหนึ่งครับผมไม่แน่ใจว่าเป็นโฆษณาของประเทศอะไร
โดยเนื้อหาของโฆษณานะครับ ได้พูดถึงชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่งครับ
ที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาท
แล้วทันใดนั้นบนถนนก็มี
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งครับ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์ ขับผ่านหน้าเขาไป
ชายหนุ่มที่เดินบนฟุตบาทรู้สึกอิจฉาชายหนุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก
เพราะตัวเขานั้น ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ จึงต้องเดินข้างถนนอยู่แบบนี้
แล้วภาพก็ตัดไปที่ชายหนุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ครับ
ชายหนุ่มได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปติดไฟแดงอยู่ที่ทางข้ามม้าลายแห่งหนึ่งครับ แล้วทันใดนั้นก็มีคู่รักคู่หนึ่งครับ เดินจูงมือกันข้ามทางม้าลายไป
ชายหนุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์รู้สึกอิจฉาคู่รักคู่นั้นเป็นอย่างมากครับ
เพราะถึงเขาจะมีมอเตอร์ไซค์และเท่สักแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีคนรู้ใจข้างกายเลยแม้แต่คนเดียว
แล้วภาพ ก็ตัดไปที่คู่รักที่เดินข้ามถนนไปครับ
โดยผู้หญิงนะครับ ที่กำลังควงแขนแฟนอยู่ เมื่อข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งสำเร็จแล้วนะครับ
เธอก็ได้สังเกตเห็นคุณแม่คนหนึ่งครับที่กำลังดูแลลูกน้อยของเธออยู่
ทันใดนั้นแฟนสาวก็รู้สึกอิจฉาคุณแม่ท่านนั้น เป็นอย่างมากครับ
เพราะว่าตัวเธอเองนั้น ถึงจะมีสามีแต่ก็ไม่มีลูกนะครับ แล้วภาพ ก็ตัดอีกครั้งครับ ตัดไปหาคุณแม่ที่กำลังดูแลลูกน้อยอยู่
ระหว่างที่คุณแม่กำลังจัด สัมภาระ ในเปลของลูกน้อยอยู่นะครับ เธอ ก็ได้หันไปเห็นนะครับ เครื่องประดับชิ้นหนึ่ง
ในตู้กระจกของห้างแห่งหนึ่งครับ ซึ่งระหว่างที่เธอดู เธอก็รู้สึกอยากได้มันมาก ๆ เลยนะครับ
แต่เธอ ก็ไม่สามารถซื้อมันได้ แล้วภาพก็ซูมเข้าไปในห้างสรรพสินค้าครับ
ทำให้เราได้เห็นนะครับว่า ในห้าง มีนักธุรกิจ วัยกลางคน ท่านหนึ่งครับ กำลังลองชุด
แพง ๆ อยู่ นักธุรกิจท่านนั้นได้เดินออกจากห้างครับแล้วก็ขึ้นไปบนรถสุดหรูของเขา
ระหว่างที่รถกำลังขับนะครับ นักธุรกิจก็ได้สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งครับที่มีผมยาวสลวยเดินอยู่ข้างถนน
ซึ่งเขา ก็ได้รู้สึกอิจฉาชายหนุ่มคนนั้นมากครับ
เพราะว่าตัวเขานั้นถึงแม้จะมีเงินทองมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่
เส้นผมบนศีรษะของเขานั้นกลับหลุดร่วงจนหมด
ซึ่งโฆษณาตัวนี้นะครับ
สะท้อนให้เราเห็นเป็นอย่างดีเลยนะครับว่า ผู้คนในโฆษณาตัวนี้ ต่างอิจฉากันเป็นวงกลมนะครับ
ทุกคนต่างมองสิ่งที่คนอื่นมีครับ แล้วก็นำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง มองว่าตัวเรานั้นทำไมไม่มีเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
ทำให้เกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมา
ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วชีวิตของทุกคนในโฆษณานะครับต่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาสำหรับใครบางคนอยู่เช่นกัน
แต่พวกเขา กลับไม่รู้ ในเรื่องนั้นเลย
ซึ่งถ้าเราจะมาวิเคราะห์เรื่องนี้กันอย่างละเอียดนะครับ
คุณผู้อ่านจะเห็นนะครับว่า ความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างที่เราเห็นนะครับ มักจะมี 2 ด้านเสมอครับ
นั่นคือด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี เพียงแต่เวลาเรามองคนอื่น เรามักจะมองเพียงเฉพาะด้านที่ดี ๆ ของเขานะครับ
อย่างเช่นชายหนุ่มผมยาวที่อิจฉาชายหนุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์นะครับ เขาอาจจะไม่รู้ว่า
ถึงการมีมอเตอร์ไซค์ให้ขี่ จะเป็นเรื่องที่เท่มากก็ตาม
แต่ชายหนุ่มคนนั้นอาจจะต้องรับภาระหลายเรื่องที่ชายหนุ่มเดินถนนไม่รู้ก็ได้ครับ
อย่างเช่นค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ ค่าน้ำมันรถ ค่าประกัน ภาษีรถ ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษารถ ในขณะที่แฟนสาวนะครับ กำลังอิจฉาคุณแม่ที่มีลูกในขณะที่ตัวเองไม่มีอยู่นั้น
เธออาจจะไม่ทราบนะครับว่าการเลี้ยงลูกอาจจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยมากกว่าที่คิดก็ได้
แล้วในโฆษณาเราก็จะเห็นว่าคุณแม่นั้นอยู่กับลูกแค่สองคนนะครับ
เธออาจจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็เป็นได้ ที่สำคัญคือถึงแม้เธอจะมีของที่อยากได้มากสักแค่ไหน
เธอก็ซื้อไม่ได้ครับ เพราะต้องเก็บเงินไว้สำหรับเลี้ยงดูลูก
ซึ่งถ้าเรามองแบบนี้นะครับ
เราก็จะพบว่า ในด้านดี ๆ ที่เรามองคนอื่นอยู่นั้นแท้จริงแล้วมันอาจจะมีอีกด้านหนึ่งที่เราไม่เคยรู้หลบซ่อนอยู่ก็ได้ครับ
ซึ่งภาพรวมของโฆษณานี้ก็ได้สะท้อนให้เราเห็นอีกอย่างหนึ่งนะครับนั่นก็คือ
ไม่มีชีวิตของใครเลยครับที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนแล้วแต่ขาดบางสิ่งกันทั้งนั้น
แต่ถ้าสมมุติว่า
คุณผู้อ่านดันไปเจอะเจอ กับชีวิตของใครที่ดูจะสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง
มีครบทุกอย่าง ก็อยากให้รู้ไว้นะครับว่า มันเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของเขาเท่านั้น
เพราะว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรคงทนถาวร
ดังนั้นหากเราโฟกัสในสิ่งที่เราขาด
เอาแต่สนใจสิ่งที่คนอื่นมีนะครับ เราก็จะไม่มีทางมีความสุขได้เลย
บางครั้ง
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือการที่เรา เอาแต่สนใจในสิ่งที่คนอื่นมีครับ โดยที่ไม่เคยมองเห็นเลยว่าตัวเรานั้นมีอะไรบ้าง
สิ่งที่ไม่มีก็คือไม่มีครับ
มันช่วยไม่ได้ แต่สิ่งที่ คุณผู้อ่านมีละครับ มันคืออะไร
ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้นและเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นให้มาก ๆ นะครับ
เพราะว่าความสุขในชีวิต
ของเรา ไม่มีเหตุผลต้องเอาไปเปรียบเทียบกับความสุขในชีวิตของใคร
สามารถฟังบทความดีๆ ในรูปแบบของพอดแคสต์ได้นะครับ
จาก บทสรุปฉบับแฮมแฮม พอดแคสต์
ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น